คาดเทสลากำไรปีนี้
บริษัทเทสลาจะมีกำไรในไตรมาส 3 และ 4 ในปีนี้ และจะไม่ต้องระดมทุนเพิ่มจากนักลงทุน อีลอน มัสก์ ซีอีโอมหาเศรษฐีระบุเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นทันที
ในช่วงเดือนนี้ เทสลาทำให้เกิดการคาดเดาในวอลล์สตรีทว่า อาจจำเป็นต้องต้องมีการระดมเงินทุนในปีนี้เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดทุนของบริษัท เนื่องจากมีการผลิตรถรุ่นโมเดล 3 ซึ่งถูกมองว่าจะส่งผลให้บริษัทมีกำไรในระยะยาว
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์แห่งซิลิคอน วัลลีย์ ซึ่งกำลังประสบปัญหาที่ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตามเป้า และต้องต่อสู้กับความไม่พอใจของสาธารณะ
ชนเกี่ยวกับอุบัติเหตุร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิตจากการทดสอบรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระบุว่า บริษัทมองในแง่ดีว่าจะมีสภาพคล่องที่ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นต้นไป
หุ้นของเทสลา ซึ่งปรับขึ้นมาเกือบ 10% ตั้งแต่เปิดเผยจำนวนการผลิตรถรุ่นโมเดล 3 เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้นมาอีก 1.8% ในการซื้อขายช่วงบ่ายในตลาดหุ้น
ทั้งนี้ มัสก์อ้างถึงกำไรและสภาพคล่องจากจำนวนการผลิตรถรุ่นโมเดล 3 ที่เพิ่มขึ้น โดยรถยนต์รุ่นล่าสุดของบริษัทต้องประสบปัญหาความล่าช้า ซึ่งเท่ากับเป็นการเลื่อนรายได้ของบริษัทที่ลงไปต่ำสุดจากจำนวนรถยนต์ที่ส่งมอบให้ลูกค้า
การใช้หุ่นยนต์ในการประกอบรถยนต์รุ่นโมเดล 3 ในขั้นตอนสุดท้ายจำนวนมาก ทำให้เกิดความซับซ้อนและล่าช้า ซึ่งมัสก์ยอมรับเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา
“ การใช้หุ่นยนต์มากเกินไปเป็นความผิดพลาด” มัสก์ทวีตบนทวิตเตอร์ “ หรือถ้าจะให้ถูกต้องคือ มันเป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมประเมินค่าของคนต่ำเกินไป”
อีกครั้งที่บริษัทพลาดจากเป้าหมายการผลิต 2,500 คันต่อสัปดาห์จนสิ้นสุดไตรมาสแรก และนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนข้องใจถึงศักยภาพของเทสลาที่จะเพิ่มการผลิตรถรุ่นโมเดล 3 ให้เติบโตเป็น 5,000 คันต่อสัปดาห์ในช่วงเวลา 3 เดือน
โดยมัสก์เคยระบุเมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้วว่า เทสลากำลังจะก้าวผ่านช่วงเวลาเลวร้ายของการผลิตในกระบวนการผลิตรถรุ่นโมเดล 3 โดยเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อ CBS News ที่ออกอากาสเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ว่า เขารู้สึกพึงพอใจและใส่เทคโนโลยีใหม่ๆเข้าไปในรุ่นโมเดล 3 อย่างครบครัน
โดยในบางช่วงของการสัมภาษณ์เกิดขึ้นในระหว่างที่เขากำลังขับรถที่เคลื่อนที่ได้เองโดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ เขาระบุว่า เทสลาในตอนนี้กำลังผลิตรถรุ่นโมเดล 3 ถึง 2,000 คันต่อสัปดาห์
ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สถาบันมูดีส์ที่ให้บริการนักลงทุนลดอันดับเครดิตให้เทสลาเป็น B3 ร่วงลงมาจากเดิมคือ B2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างชัดเจนในกระบวนการผลิตรถรุ่นโมเดล 3
โดยทางมูดีส์เสริมว่า แนวโน้มด้านลบสำหรับเทสลา สะท้อนให้เห็นถึงความน่าจะเป็นที่จะต้องรับภาระ มีการระดมทุนในอนาคตอันใกล้ และหลีกเลี่ยงการขาดสภาพคล่องทางการเงิน
เมื่อถูกสื่อ CBS ถามถึงข้อบกพร่องของระบบขับอัตโนมัติ มัสก์ตอบว่า “ ระบบทำงานได้ดีอย่างที่บรรยายไว้ ซึ่งต้องมีมือที่จับพวงมาลัย นี่ไม่ใช่เรื่องของระบบขับอัตโนมัติ ”
ในระหว่างช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ มัสก์ปล่อยมือจากพวงมาลัย และรถยนต์ได้ส่งเสียงเตือนเขาทันทีให้จับพวงมาลัยอีกครั้ง.