จีนเชื่อเศรษฐกิจโตตามเป้าปีนี้
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่าเขามั่นใจว่าจีนจะบรรลุเป้าหมายทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมในปีนี้ และทำให้ช่วงเวลาปีที่ 13 ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจเป็นการเริ่มต้นที่ดี อ้างอิงจากการรายงานถ้อยแถลงของผู้นำจีนเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.จากสำนักข่าวซินหัว
โดยพรรคคอมมิวนิสต์ได้ทำลิสท์เป้าหมายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลสำหรับปี 2560 นั่นคือการปฏิรูปโครงสร้างด้านอุปทานเพิ่มเติม จีนจะเปิดกว้างทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงเงื่อนไขการลงทุน ผ่อนคลายศักยภาพการบริโภคและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
“ ประเทศจีนต้องเดินหน้าปฏิรูปในหลายภาคส่วน ทั้งรัฐวิสาหกิจ งบประมาณและการจัดเก็บภาษี การคลังและความมั่นคงทางสังคม ” สำนักข่าวซินหัวรายงานหลังจากการประชุมของสำนักข่าวการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์
การประชุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมก่อนที่จะมีการประชุมประจำปีของของคณะรัฐบาลในเดือนนี้เพื่อวางแผนและกำหนดเป้าหมายและนโยบายเศรษฐกิจสำหรับปีหน้า
เศรษฐกิจของจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกท้าทายความสงสัยของนักวิเคราะห์ในปีนี้ ด้วยตัวเลขจีดีพี 6.7% ต่อเนื่องกันมา 3 ไตรมาสแล้ว หยุดภาวะเงินฝืดของราคาต่อรองหน้าประตูโรงงานที่เกิดขึ้นมา 4 ปีลงได้ และดัชนีการผลิตหลักที่สูงเท่ากับปี 2555 หลังจากดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินมานาน 2 ปี มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ธนาคารกลางของจีนจะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย หรือลดสัดส่วนเงินทุนสำรองของธนาคารในปีนี้ลง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของจีนยังคงประสบปัญหาสำคัญหลายเรื่อง และภาครัฐควรพยายามให้มากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา เช่น การลดกำลังการผลิตส่วนเกินและความเสี่ยงด้านการเงินในบางพื้นที่ อ้างอิงจากรายงานการประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรค นอกจากนี้ จีนต้องเร่งก่อสร้างกระบวนการทางเทคนิคในระยะยาวเพื่อหนุนการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ราบรื่นและมีเสถียรภาพ
โดยความเห็นของประธานาธิบดีสีสะท้อนไปในทิศทางเดียวกันกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งกล่าวเมื่อเดือนพ.ย.ว่า เขาเชื่อมั่นว่าตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าคือ 6.5 – 7%
ความยืดหยุ่นของจีนจะเผชิญกับความท้าทายจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของจีนและจะตราหน้าจีนว่าเป็นนักปั่นค่าเงินหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค โดยนายทรัมป์ยังคงกล่าววิจารณ์จีนอีกครั้งในรัฐไอโอวาเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.โดยเรียกร้องว่าเป็นความรับผิดชอบของจีนที่ทำให้สหรัฐฯขาดดุลการค้า
“ จีนไม่ใช่ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด จีนไม่เล่นตามกฎ และจีนรู้แล้วว่าถึงเวลาที่จะต้องเริ่มทำตามกฎแล้ว ” นายทรัมป์กล่าว
ประธานาธิบดีสีกล่าวกับนายทรัมป์ในการสนทนาครั้งแรกว่า ความร่วมมือเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก โดยว่าที่ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่สัญญากับจีนว่า นี่จะเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุด.