‘อาเบะ’ ลาออกจากปัญหาสุขภาพ
โตเกียว : เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่นประกาศยืนยันการลาออกจากตำแหน่งของเขาจากปัญหาสุขภาพ
โดยนายกฯ อาเบะระบุว่า สุขภาพของเขาเริ่มแย่ลงตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค. และเขาไม่อยากให้อาการป่วยของเขาส่งผลกระทบกับการตัดสินใจในการกำหนดนโยบาย
“ ผมตัดสินใจว่า ผมจะขอออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยความเชื่อที่ว่า ผมจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นายกฯได้ หากผมไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะทำงานได้ และจะทำลายความเชื่อถือของประชาชนในตัวผม” นายกฯอาเบะ วัย 65 ปีกล่าวในการแถลงข่าว
อาเบะ ซึ่งต่อสู้กับโรคลำไส้อักเสบมาหลายปี และไปโรงพยาบาลถึง 2 ครั้งในช่วงนี้ ระบุว่าเขาตัดสินใจลงจากตำแหน่งในตอนนี้เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดสูญญากาศทางการเมือง เนื่องจากประเทศประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
“ ผมขอโทษจากก้นบึ้งของหัวใจแม้จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวญี่ปุ่น แต่ผมกำลังจะออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระถึงหนึ่งปีเต็ม และท่ามกลางนโยบายต่างๆและสถานการณ์โควิด-19” อาเบะกล่าว
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่อาเบะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ด้วยปัญหาสุขภาพ เขาเคยประกาศลาออกเช่นนี้ในปี 2550 หลังจากทำหน้าที่นายกฯได้เพียง 1 ปี จากอาการเจ็บป่วยเช่นกัน
อาเบะลาหยุด 3 วันในเดือนส.ค. และเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ได้เดินทางไปโรงพยาบาลโดยไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ และใช้เวลานานกว่า 7 ชม.ในการตรวจสุขภาพ
สัปดาห์ต่อมา เขาไปที่โรงพยาบาลเดิมอีกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อตรวจเพิ่มเติม และให้สัมภาษณ์ในช่วงเวลานั้นว่าเขาตั้งใจจะทำหน้าที่นายกฯต่อไป
เมื่อข่าวที่ว่าเขามีแนวโน้มจะลาออกแพร่สะพัดออกไป ดัชนีนิกเคอิของญี่ปุ่นร่วงลง 2.12%
คาดการณ์ว่าอาเบะจะอยู่ในตำแหน่งจนกว่าพรรคเสรีประชาธิปไตยของเขาจะสามารถเลือกคนที่จะมาแทนเขาได้ ในการเลือกตั้งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในบรรดาส.ส.และสมาชิกของพรรค
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. อาเบะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกฯที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุด คือ 2,799 วัน มากกว่าลุงของเขาคืออดีตนายกฯ เอซาคุ ซาโตะที่เคยทำสถิติเดิมไว้เมื่อ 50 ปีก่อน
จากเสียงวิจารณ์เขาในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และข่าวฉาวในบรรดาสมาชิกพรรค ทำให้คะแนนความนิยมในตัวอาเบะลดลงจนเป็นหนึ่งในระดับที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 8 ปีที่เขาอยู่ในตำแหน่ง
อาเบะทำตามสัญญาด้วยการใช้จ่ายงบประมาณไปกับกองทัพญี่ปุ่น หลังจากหลายปีก่อนที่มีการใช้งบน้อยลง และเพิ่มศักยภาพในการสร้างอำนาจในต่างประเทศ
ในวันที่ 28 ส.ค. อาเบะระบุว่า เขาเชื่อว่าใครก็ตามที่มาดำรงตำแหน่งต่อจากเขามีแนวโน้มจะต้องรับมือกับประเด็นการปฏิรูปแก้ไขรัฐธรรมนูญ