ขาช้อปชาวจีนหนุนห้างญี่ปุ่นขยายตัว
นักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิยมซื้อนาฬิกาข้อมือเรือนละล้านเยนและสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงลิ่ว ช่วยดันยอดขายในห้างสรรพสินค้าระดับหรู ที่มีบริษัทในเครือมิตซูบิชิเป็นเจ้าของในปีที่แล้ว เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่า จึงทำให้ขาช้อปยิ่งทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
นายยูทากะ ทาจิมา เจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของบริษัทมิตซูบิชิเอสเตท ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ว่า ในปี 2558 ยอดขายของห้างสรรพสินค้าระดับหรูในญี่ปุ่นมียอดขายพุ่งขึ้นมากกว่า 10% โดยมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ระหว่าง 300,000 -350,000 ล้านเยน เขาตั้งเป้าว่าจะทำยอดขายเพิ่มสูงขึ้นได้อีกในปีนี้
นายทาจิมา ให้ความเห็นว่า การท่องเที่ยวที่เฟื่องฟูช่วยเพิ่มมูลค่าในตลาดให้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ถึงแม้การบริโภคในประเทศจะชะลอตัวก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการในห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมี่ยม 9 แห่งของบริษัทพุ่งทะยานมากกว่า 80% มาอยู่ที่ 1.17 ล้านคนใน 9 เดือนแรกของปี 2558 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 45 ปี ที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนญี่ปุ่นสามารถเอา
ชนะจำนวนชาวญี่ปุ่นที่ไปเที่ยวต่างประเทศได้ในปีที่แล้ว
นายทาจิมา ยังกล่าวอีกว่า “เราได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในปีที่แล้ว มีคนที่ต้องการซื้อสินค้าคุณภาพดี มากกว่าจะซื้อสินค้าราคาถูก จำนวนประชากรชาวญี่ปุ่นหดตัว และการบริโภคก็ไม่ขยับ
ขึ้นเลย ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงสำคัญมากสำหรับบริษัทของเรา”
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา จำนวนประชากรในญี่ปุ่นลดลงในรอบ 7 ปี มาอยู่ที่ 126.9 ล้านคนในปี 2558 ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา
สถาบันวิจัยประชากรและความมั่นคงทางสังคมแห่งชาติ ประเมินว่า จะมีจำนวนประชากรชาวญี่ปุ่นลดลงเฉลี่ยมากกว่า 700,000 คนต่อปี ในระหว่างปี 2563-2573
นายทาจิมา ยีงให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัทมิตซูบิชิเอสเตทดำเนินการจัดตั้งจุดแลกเงินต่างประเทศไว้ครบครัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เข้าไปช่วยเหลือพนักงานในร้านค้าพื้นที่เช่าในห้างให้สนทนาภาษาต่างประเทศได้อย่างคล่องแคล่ว จัดเตรียมห้องสวดมนต์ไว้พร้อมใช้และยังจัดทำแผนที่ร้านค้าปลอดภาษีที่อยู่ในละแวกนั้นให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการในห้างอีกด้วย
ห้างโกเท็นบะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เชิงเขาฟูจิ ใช้เวลา 90 นาทีในการเดินทางโดยรถโดยสารจากโตเกียว เป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุด โดยห้างนี้สามารถทำยอดขายได้มากถึง 20% ของยอดขายรวมของทุกห้างในปีที่แล้ว โดยเอาท์เล็ทของบริษัทมี 210 สาขาและมีแบรนด์หรูหราราคาแพงครบครันตั้งแต่กุชชี่ไปจนถึงราล์ฟ ลอเรน เขากล่าวว่า ห้างของเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์ที่จัดให้นักท่องเที่ยวตระเวนชมเมืองไปแล้ว
บริษัทไซโก้ โฮลดิ้ง ก็เป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่ได้รับผลประโยชน์จากการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวด้วย บริษัทไซโก้ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงโตเกียวคาดการณ์ว่ายอดขายนาฬิกาข้อมือรุ่นแกรนด์ไซโก้ที่หรูหรามีระดับ จะช่วยหนุนยอดขายรวมให้เพิ่มขึ้นได้ถึง 3.9% โดยจะมี มูลค่าถึง 305,000 ล้านเยนในปีงบประมาณที่สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.นี้
นายทาจิมา กล่าวว่า “เรามีนาฬิกาไซโก้หลายรุ่นที่วางจำหน่ายในเอาท์เล็ทของเราด้วย แต่รุ่นที่คุณภาพสูงราคาประมาณ 500,000 -1,000,000 เยนจะขายดีที่สุดทั้งในเอาท์เล็ต รวมถึงร้านและห้างสรรพสินค้าในย่านกินซ่า”
จากข้อมูลของสำนักการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ในปี 2558นักท่องเที่ยวจีนจัดว่าเป็นนักช้อปที่ใช้จ่ายเงินมือเติบที่สุด คือใช้จ่ายเงินในการช้อปปิ้งต่อคนถึง 283,842 เยน และมีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่นมากที่สุดคือ 23% รองลงมาคือ ออสเตรเลีย
มิตซูบิชิเอสเตทจะเปิดเอาท์เล็ตระดับพรีเมี่ยมเพิ่มเป็นแห่งที่ 10 ในเมืองฮานาโซโน จังหวัดไซตามะ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียวในปี 2561
หุ้นของมิตซูบิชิเอสเตทร่วงลงมา 5.2% มาอยู่ที่ 2,135 เยน เมื่อปิดการซื้อขายที่ตลาดหุ้นโตเกียวเมื่อวันที่ 9 ก.พ. โดยหุ้นของบริษัทร่วงลงมาถึง 15% แล้วในปีนี้ มิตซูบิชิเอสเตทเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าระดับหรูหลายแห่งจากการร่วมทุนกับบริษัทไซม่อนพร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
หมายเหตุ 100 เยน = 30.29 บาท
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2559