ซัมซุงเตือนพนักงานปีนี้เหนื่อย
ซัมซุง บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งเกาหลีใต้คาดการณ์ว่าปีนี้การบริหารจัดการธุรกิจจะยากขึ้น จากเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำลงและการแข่งขันสูงขึ้นในส่วนเมมโมรี่ชิปส์และสมาร์ทโฟน
นายควอน โอ ฮยอน ประธานบริหาร กล่าวกับพนักงานเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงซบเซาต่อเนื่องในปีนี้ จากปัจจัยความไม่มั่นคงหลายอย่าง รวมถึงความเสี่ยงของสถานะทางการเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่
บริษัทยอมรับว่าผลประกอบการในไตรมาส 4 ของปี 2558 อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ หุ้นของซัมซุงลดลง 3.4% หลังจากไตรมาสก่อนหน้านี้ตกลงไป 3.5% ขณะที่ในตลาดโซลหดตัวไป 1.5% โบรกเกอร์ในเกาหลีใต้เขียนไว้ในรายงานว่า “ผลกระทบด้านลบจากอุปสงค์ที่ลดต่ำลงและราคาที่ตกฮวบลงของเซมิคอนดักเตอร์และจอภาพผลึกเหลว จะส่งผลที่ใหญ่กว่าที่เคยคาดการณ์ไว้”
บรรษัทเพื่อการลงทุนของเกาหลีลดตัวเลขการประเมินผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2558 ของซัมซุงลงเหลือ 6.4 ล้านล้านวอน จากเดิมอยู่ที่ 6.8 ล้านล้านวอน โดยตัวเลขที่ได้จากการประเมินเฉลี่ยจากนักวิเคราะห์ 36 คน รวบรวมโดยธอมสันรอยเตอร์ คือ 6.8 ล้านล้านวอน ลดลงมา 8.1% จากรายได้ในไตรมาส 3 เดิมคือ 7.4 ล้านล้านวอน
นายควอน ซีอีโอ ของซัมซุงยังได้เตือนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดมากยิ่งขึ้นในธุรกิจหลักของบริษัท แต่บริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดในการคาดการณ์ตัวเลขแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ซัมซุงคาดว่าจะให้ข้อมูลผลประกอบการในไตรมาสเดือนต.ค.-ธ.ค. ต่อสาธารณะได้ในวันที่ 8 ม.ค.นี้
ขณะเดียวกัน บริษัทยักษ์ใหญ่อีกแห่งของเกาหลีใต้อย่างฮุนไดมอเตอร์คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ของฮุนไดอาจจะลดลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี โดยฮุนไดมอเตอร์และบริษัทพันธมิตรอย่างเกียมอเตอร์คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 1.5% ในปีนี้ หลังจากพลาดเป้าไปในปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพลาดเป้าครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกเป็นต้นมา
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ทั้ง 2 แบรนด์ ต่างคาดหวังให้ยอดขายในจีนกระเตื้องขึ้น จากผลของการลดภาษีในรถยนต์นั่งขนาดเล็ก แต่ความต้องการรถยนต์ในรัสเซีย บราซิลและประเทศ ตลาดเกิดใหม่อีกหลายประเทศยังคงมีแรงกดดันต่อยอดขายต่อไป โดยฮุนไดตั้งเป้าว่าปี 2559 นี้ บริษัทจะขายรถยนต์ได้ถึง 5.01 ล้านคัน หลังจากปีที่แล้วขายได้ 4.96 ล้านคัน นับว่าต่ำกว่าเป้าที่เคยตั้งไว้ ขณะที่ บริษัทเกียมอเตอร์ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ในปีนี้ไว้ 3.12 ล้านคัน หลังจากขายได้ 3.05 ล้านคันในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เกียวางแผนจะเปิดโรงงานแห่งแรกในเม็กซิโกภายในครึ่งปีแรกนี้ ขณะที่ฮุนไดกำลังเตรียมที่จะเปิดโรงงานแห่งที่ 4 ในจีน ในช่วงครึ่งปีหลัง หุ้นของฮุนไดตกลง 3.4% ซึ่งนับว่าต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือน ในขณะที่หุ้นของเกียก็ร่วงลงไป 3.4% เหมือนกัน
ในปี 2558 ที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทฮุนไดดิ่งฮวบลงมาถึง 12% ทำให้กลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่หุ้นตกมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากโฟลค์สวาเก้น บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก