สื่อเผย ‘หญิงบำเรอ’ 1 ต่อทหารญี่ปุ่น 70
โตเกียว : สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กองทัพพระจักรพรรดิญี่ปุ่นร้องขอให้รัฐบาลจัดหา ‘หญิงบำเรอ’ ให้ 1 คนต่อทหาร 70 นาย อ้างอิงจากเอกสารรัฐบาลที่มีการเปิดเผยออกมา
‘หญิงบำเรอ’ เป็นคำที่ใช้เรียกเด็กหญิงและผู้หญิง ( ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเกาหลี) ที่ถูกบังคับให้เป็นโสเภณีในกองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเด็นสะเทือนใจนี้สร้างความร้าวฉานให้กับความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มานานหลายทศวรรษ
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อความหนึ่งจากกงสุลใหญ่ของชิงเต่าในมณฑลชานตงของจีนที่ถูกส่งไปกระทรวงต่างประเทศในกรุงโตเกียวระบุว่ากองทัพพระจักรพรรดิร้องขอให้จัดส่งผู้หญิงไปบำเรอทหารในอัตราส่วนหญิงบำเรอ 1 คนต่อทหาร 70 นาย
โดยมีอีกข้อความหนึ่ง จากกงสุลใหญ่ของจี๋หนาน ซึ่งอยู่ในมณฑลชานตงระบุว่า “มีหญิงบำเรออย่างน้อย 500 คนที่อยู่รวมกันที่นี่” เพราะกองทัพญี่ปุ่นรบชนะมีความก้าวหน้ามากขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
‘แถลงการณ์โคโนะ’ ในปี 2537 ซึ่งมีชื่อเรียกตามเลขาธิการใหญ่คณะรัฐมนตรี โยเฮ โคโนะ ระบุว่า ทางการญี่ปุ่นมีความเกี่ยวข้องกับการบีบังคับให้ผู้หญิงทำงานในซ่อง แต่นั่นไม่ได้หยุดข้อพิพาทในประเด็นนี้ เช่น ระดับความเกี่ยวข้องของรัฐบาลญี่ปุ่น
“จากเอกสารล่าสุด เรามีข้อมูลทีมีรายละเอียดในการดำเนินการเปิดซ่อง มีทหารกี่นายต่อหญิงบำเรอแต่ละคน” ยุนมีฮยางจาก สมาคมชาวเกาหลีเพื่อผู้หญิงที่ถูกใช้บำเรอทหารญี่ปุ่น (Korean Council for the Woman Drafted for Military Sexual Slavery by Japan ) ระบุ
“ นี่เป็นสัญญาณชัดเจนว่า รัฐบาลญี่ปุ่นรับผิดชอบในการบังคับผู้หญิงเกาหลีมาเป็นทาสบำเรอกามให้ทหารญี่ปุ่น ”
ทั้งนี้ ไม่มีความเห็นที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งสื่อเกียวโดรายงานว่า ได้รวบรวมเอกสารทางการที่เกี่ยวข้องกับหญิงบำเรอ
เกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่นในการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องหญิงบำเรอในปี 2558 ซึ่งญี่ปุ่นขอโทษเหยื่อและจัดเงินจำนวน 1,000 ล้านเยน ( 274 ล้านบาท ) ให้เป็นกองทุนเพื่อช่วยเหลือเหยื่อ
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองในเอเชียตะวันออกถดถอยลงตั้งแต่ศาลสูงเกาหลีใต้มีคำพิพากษาที่เป็นประโยชน์กับเกาหลีใต้ โดยให้บริษัทญี่ปุ่นจ่ายเงินชดเชยให้แรงงานเกาหลีที่ถูกบังคับให้ทำงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2.