คลังอัดแหลก“ชิมช้อปใช้” คืนสิทธิ์-เร่งจ่ายคืนเงิน
คลังอัดแหลก! แลกใช้จ่ายผ่าน “ชิมช้อปใช้ – กระเป๋า 2” หนุนคนไทยใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีนี้ ต่อเนื่องปีหน้า เผยทั้ง “คืนสิทธิ์” กันคนถูกตัดสิทธิ์ก่อนหน้านี้ แถมด้วยกรมบัญชีกลาง จ่าย Cash back คืน 3 งวดรวด ประเดิม 15 ธ.ค. 62 นี้
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษก กระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินมาตรการ “ชิมช้อปใช้” ในการใช้จ่ายเงินของประชาชน
ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมการใช้จ่ายของประชาชนตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. – 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ใช้สิทธิ์รวม 3 เฟส 11,780,066 ราย มีการใช้จ่ายรวม 19,233 ล้านบาท ถือเป็นความสำเร็จของมาตรการฯ ที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างดียิ่ง
อย่างไรก็ดี การดำเนินมาตรการฯ ช่วงแรกมีกลุ่มผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ที่ประสงค์จะใช้สิทธิ์ตามมาตรการฯ แต่ไม่สามารถเริ่มใช้สิทธิ์ภายใน 14 วัน ใน จ.ที่มิใช่ภูมิลำเนาของตนเองได้จึงถูกตัดสิทธิ์ ดังนั้น เมื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่ให้สามารถใช้จ่ายผ่าน g-Wallet ช่อง 2 (กระเป๋า 2) ได้ทุกจังหวัด ดังนั้น จึงคืนสิทธิ์ให้แก่ผู้ถูกตัดสิทธิ์ในกรณีดังกล่าวสำหรับการใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ซึ่งจะเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึง 31 ม.ค.63
สำหรับผู้ที่เคยผ่านการยืนยันตัวตน จากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลและถ่ายรูปเปรียบเทียบใบหน้าในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” แล้ว สามารถใส่หมายเลข PIN เดิม เพื่อใช้งานแอปพลิเคชันและรับสิทธิ์ได้ทันที ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้ายืนยันตัวตน ขอให้ดำเนินการยืนยันตัวตน ตามขั้นตอนในแอปพลิเคชันเพื่อรับสิทธิ์ดังกล่าว
รองโฆษกกระทรวงการคลังได้ กล่าวอีกว่า ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้ง 3 เฟส สามารถใช้สิทธิ์ภายใต้มาตรการได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค.63 ดังนั้น จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 เพื่อมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลที่จะถึงนี้ และมีสิทธิได้รับเงินคืนสูงสุดถึงร้อยละ 20
ด้าน น.ส.วิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ตามที่ ครม.มีมติขยายระยะเวลามาตรการ “ชิมช้อปใช้” ไปถึงวันที่ 31 ม.ค.63 โดยกรมบัญชีกลางมีหน้าที่รับสมัครร้านค้าเข้าร่วมมาตรการฯ และเปิดรับลงทะเบียนถึงวันที่ 15 ม.ค.63 ซึ่งสำหรับผู้ใช้สิทธิ์ที่ได้จ่ายเงินจากกระเป๋า 2 ไปก่อนแล้วนั้น จะได้รับเงินชดเชย หรือเงินคืน (Cash Back) ดังนี้
งวดแรก วันที่ 15 ธ.ค. 62 ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 27 ก.ย. – 30 พ.ย. 62
งวดสอง วันที่ 15 ม.ค. 63 ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1 – 31 ธ.ค. 62
งวดสาม วันที่ 15 ก.พ.63 ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1-31 ม.ค. 63
ซึ่งเงินคืน (Cash Back) ได้กำหนดคืนตามเงื่อนไขของมาตรการ คือ 15% สำหรับการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท และอีก 20% สำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่ 30,001 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท รวมเงินคืนสูงสุด 8,500 บาท โดยผู้ใช้สิทธิ์สามารถตรวจสอบยอดเงินคืนของตนเองได้ที่แอปฯเป๋าตัง แล้วสามารถโอนเงินคืนกลับเข้าบัญชีของตนเองผ่าน Internet Banking ได้
“ขอให้ผู้ใช้สิทธิ์พิจารณาก่อนการใช้จ่าย ว่าร้านค้าที่จะไปซื้อสินค้าหรือบริการเป็นผู้ประกอบการ/ร้านค้า ที่เข้าร่วมมาตรการที่ได้สิทธิ์ในกระเป๋า G-Wallet 2 ด้วย เพื่อผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับเงินชดเชย ทั้งนี้ ร้านค้าที่ได้สิทธิ์ในกระเป๋า G-Wallet 2 จะเป็นร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการที่เป็นประเภท ชิม ช้อป หรือ ใช้ ที่มิใช่เป็นร้านขายสินค้าบริการทั่วไปหรือห้างสรรพสินค้า และขอฝากผู้ใช้สิทธิ์ใช้จ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรการด้วย” โฆษกกรมบัญชีกลางย้ำ.