ส่งออกเดือนธ.ค.โตทะลุ 6%
พาณิชย์มั่นส่งออกไทยปีนี้ โตทะลุ 3.5% หลังจากยอดส่งออกปีที่แล้ว ขยายตัวได้ 0.45% สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก ขณะที่เดือนธ.ค.59 ส่งออกโตพรวดถึง 6.23%
“ สถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ตลอดปี 59 ไทยมีมูลค่าการส่งออก 215,326 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.45% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีมูลค่า 214,352 ล้านเหรียญฯ ติดลบ 5.79% โดยการขยายตัว 0.45% เป็นการขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากที่มูลค่าการส่งออกติดลบต่อเนื่อง 3 ปี ซึ่งปี 56 ติดลบ 0.26% ปี 57 ติดลบ 0.43% และปี 58 ติดลบ 5.79% ” น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงข่าวที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.60
ขณะที่ การส่งออกของไทยในปี 60 มีแนวโน้มจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน และมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอัตรา 2.5-3.5% จากปี2559 หรือประมาณ 220,700-222,800 ล้านเหรียญฯ แต่ก็มีโอกาสที่จะขยายตัวได้มากกว่า 3.5% หากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น และมีโอกาสที่จะโตได้ถึง 5% หากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญและตลาดหลักกลับมาขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ แต่อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์จะมีการทบทวนตัวเลขส่งออกของปี 60 อีกครั้งในช่วงกลางปี
“ มูลค่าการส่งออกของไทยในปีที่แล้ว เป็นมูลค่าสูงเป็นอันดับ 8 ของโลก อันดับ 4 ของเอเชีย และอันดับ 2 ของอาเซียน ท่ามกลางการค้าโลกปี 59 ที่หดตัวถึง 3.1% ส่วนเมื่อคิดเป็นเงินบาท การส่งออกมีมูลค่า 7.548 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.45% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 194,667 ล้านเหรียญฯ ลดลง 3.94% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 6.904 ล้านล้านบาท ลดลง 0.02% มีดุลการค้าเกินดุล 20,659 ล้านเหรียญฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเกินดุล 643,847 ล้านบาท ”
สำหรับเดือนธ.ค.59 การส่งออกมีมูลค่า 18,164.3 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 6.23% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.58 คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 640,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% การนำเข้ามีมูลค่า 17,226 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 10.34% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 614,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.24% มีดุลการค้าเกินดุล 938 ล้านเหรียญฯ หรือเกินดุล 25,214 ล้านบาท โดยการส่งออก ที่ขยายตัว 6.23% หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำออก ยังขยายตัว 4.2%
“ การส่งออกปี 59 ที่กลับมาเป็นบวกและสูงสุดรอบ 4 ปี สะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวในทางที่ดี โดยสินค้าสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกไทยขยายตัวดีขึ้นเช่น ทองคำ ยานยนต์และส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ และสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบเริ่มสูงงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น และกำลังซื้อหลายประเทศเริ่มกลับมา ” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว
” การส่งออกของไทยฟื้นตัวจากปัจจัยหลายด้าน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจในช่วงที่เริ่มเป็นขาขึ้น และมั่นใจว่ากำลังไปได้ดี ถ้าเศรษฐกิจโลกดีขึ้น เราอาจส่งออกได้มากกว่า 3.5% และอาจมีโอกาสทำได้สูงสุดถึง 5% “ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนการส่งออกในปีนี้มาจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นแบบช้าๆ ส่งผลให้แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรสำคัญ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าแบบค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยสนับสนุนให้การส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปอย่างล่าช้า อีกทั้งความไม่ชัดเจนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการค้าโลกในระยะต่อไป
“ กระทรวงพาณิชย์ประเมินค่าเงินบาททั้งปี 60 อยู่ในช่วง 35.5-37.5 บาท/เหรียญฯ ขณะที่ราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ ไปอยู่ในกรอบ 50.0 – 60.0 เหรียญฯ /บาร์เรล ” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว
พาณิชย์มั่นส่งออกไทยปีนี้ โตทะลุ 3.5% หลังจากยอดส่งออกปีที่แล้ว ขยายตัวได้ 0.45% สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก ขณะที่เดือนธ.ค.59 ส่งออกโตพรวดถึง 6.23%
“ สถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ตลอดปี 59 ไทยมีมูลค่าการส่งออก 215,326 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.45% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่มีมูลค่า 214,352 ล้านเหรียญฯ ติดลบ 5.79% โดยการขยายตัว 0.45% เป็นการขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากที่มูลค่าการส่งออกติดลบต่อเนื่อง 3 ปี ซึ่งปี 56 ติดลบ 0.26% ปี 57 ติดลบ 0.43% และปี 58 ติดลบ 5.79% ” น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงข่าวที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 24 ม.ค.60
ขณะที่ การส่งออกของไทยในปี 60 มีแนวโน้มจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีก่อน และมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอัตรา 2.5-3.5% จากปี2559 หรือประมาณ 220,700-222,800 ล้านเหรียญฯ แต่ก็มีโอกาสที่จะขยายตัวได้มากกว่า 3.5% หากเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น และมีโอกาสที่จะโตได้ถึง 5% หากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญและตลาดหลักกลับมาขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ แต่อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์จะมีการทบทวนตัวเลขส่งออกของปี 60 อีกครั้งในช่วงกลางปี
“ มูลค่าการส่งออกของไทยในปีที่แล้ว เป็นมูลค่าสูงเป็นอันดับ 8 ของโลก อันดับ 4 ของเอเชีย และอันดับ 2 ของอาเซียน ท่ามกลางการค้าโลกปี 59 ที่หดตัวถึง 3.1% ส่วนเมื่อคิดเป็นเงินบาท การส่งออกมีมูลค่า 7.548 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.45% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 194,667 ล้านเหรียญฯ ลดลง 3.94% เมื่อคิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 6.904 ล้านล้านบาท ลดลง 0.02% มีดุลการค้าเกินดุล 20,659 ล้านเหรียญฯ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเกินดุล 643,847 ล้านบาท ”
สำหรับเดือนธ.ค.59 การส่งออกมีมูลค่า 18,164.3 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 6.23% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.58 คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 640,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% การนำเข้ามีมูลค่า 17,226 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 10.34% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 614,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.24% มีดุลการค้าเกินดุล 938 ล้านเหรียญฯ หรือเกินดุล 25,214 ล้านบาท โดยการส่งออก ที่ขยายตัว 6.23% หากหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และทองคำออก ยังขยายตัว 4.2%
“ การส่งออกปี 59 ที่กลับมาเป็นบวกและสูงสุดรอบ 4 ปี สะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวในทางที่ดี โดยสินค้าสำคัญที่ช่วยให้การส่งออกไทยขยายตัวดีขึ้นเช่น ทองคำ ยานยนต์และส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ และสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบเริ่มสูงงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น และกำลังซื้อหลายประเทศเริ่มกลับมา ” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว
” การส่งออกของไทยฟื้นตัวจากปัจจัยหลายด้าน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจในช่วงที่เริ่มเป็นขาขึ้น และมั่นใจว่ากำลังไปได้ดี ถ้าเศรษฐกิจโลกดีขึ้น เราอาจส่งออกได้มากกว่า 3.5% และอาจมีโอกาสทำได้สูงสุดถึง 5% “ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนการส่งออกในปีนี้มาจากราคาน้ำมันดิบที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นแบบช้าๆ ส่งผลให้แนวโน้มราคาสินค้าเกษตรสำคัญ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าแบบค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยสนับสนุนให้การส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เป็นไปอย่างล่าช้า อีกทั้งความไม่ชัดเจนของนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันต่อการค้าโลกในระยะต่อไป
“ กระทรวงพาณิชย์ประเมินค่าเงินบาททั้งปี 60 อยู่ในช่วง 35.5-37.5 บาท/เหรียญฯ ขณะที่ราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ ไปอยู่ในกรอบ 50.0 – 60.0 เหรียญฯ /บาร์เรล ” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว