บิล เกตส์ขึ้นแท่นรวยสุดในโลกอีก
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์แซงเจฟฟ์ เบซอสแห่งอเมซอนขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ที่รวยที่สุดในโลกได้อีก นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองปี
โดยเกตส์อาจได้อานิสงส์บางส่วนมาจากการประกาศเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่สร้างเซอร์ไพรส์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งทำสัญญาด้านระบบคอมพิวเตอร์คลาวด์กับไมโครซอฟท์ ทำให้ราคาหุ้นของไมโครซอฟท์พุ่งขึ้นมา 4% และหนุนให้เกตส์มีทรัพย์สิน
ถึง 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 3.33 ล้านล้านบาท ) จาก Bloomberg Billionaire Index ขณะที่ราคาหุ้นของอเมซอนร่วงลงประมาณ 2% หลังคำประกาศ ทำให้เบซอสมีทรัพย์สินอยู่ที่ 108,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 3.29 ล้านล้านบาท )
เกตส์ ในวัย 64 ปี เบียดแซงเบซอส วัย 55 ปีขึ้นมาได้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ จากการดูกราฟรายนาทีเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากอเมซอนโพสต์รายงานผลกำไรที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี แต่หุ้นของบริษัทค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของโลกยังคงไม่ปรับลดลง
โดยดัชนีนี้ ซึ่งรายงานความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุด 500 อันดับแรกของโลก มีการอัพเดทการซื้อขายแต่ละวันหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯปิด โดยมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปคือเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ อยู่ในอันดับ 3 ของดัชนีด้วยทรัพย์สิน 102,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 3.11 ล้านล้านบาท)
หุ้นของไมโครซอฟท์พุ่งทะยานขึ้นมาถึง 48% ในปีนี้ ช่วยหนุนมูลค่าหุ้น 1% ของบิล เกตส์ โดยทรัพย์สินส่วนที่เหลือของเขามาจากการขายหุ้นและการลงทุนที่ผ่านมาในรอบหลายปีของ Cascade ซึ่งเป็นออฟฟิศของครอบครัวของเขา
โดยเบซอสจะเป็นบุคคลที่ร่ำรวยกว่านี้ หากเขาไม่หย่ากับภรรยาของเขาคือแมคเคนซี เบซอส ทั้งคู่ประกาศหย่าขาดจากกันในเดือนม.ค. โดยแมคเคนซี วัย 49 ปี ได้รับหุ้น 1 ใน 4 ของอเมซอนเมื่อเดือนก.ค. ทั้งนี้ ทรัพย์สินของเธอลดลงมาอยู่ที่ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 1.06 ล้านล้านบาท ) เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เกตส์อาจไม่หลุดจากตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกเลยหากเขาไม่เป็นคนใจบุญมากขนาดนี้ โดยเขาได้บริจาคเงินกว่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 1.06 ล้านล้านบาท ) ให้มูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์ที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2537
เมื่อเร็วๆนี้ เกตส์ได้แสดงความเห็นของเขาเรื่องภาษีที่พรรคเดโมแครตเสนอให้คนรวยจ่ายมากขึ้น บรรดาผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯล้วนแต่สนับสนุน รวมทั้งเอลิซาเบธ วอร์เรน โดยเกตส์ระบุว่า เขาได้จ่ายภาษีไปแล้วมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 303,400 ล้านบาท )
“ หากผมต้องจ่าย 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็ดี” เขากล่าว “ แต่เมื่อคุณบอกว่าผมควรจ่าย แสนล้าน ถึงตอนนั้น ผมคงต้องคำนวณถึงสิ่งที่ผมเหลืออยู่”
ในปัจจุบันนี้ จำนวนภาษีที่เขาจ่ายคือ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ