กสิกรไทย จับมือ ออมสิน ใช้ตู้เอทีเอ็ม ร่วมกัน
ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารออมสินปลุกโมเดลเอทีเอ็มสีขาว (White Label ATM) ให้บริการเอทีเอ็มร่วมกันเพื่อสร้างความพึงพอใจและความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการใช้บริการเอทีเอ็มได้ครอบคลุมมากขึ้น นำร่องผ่านตู้ออมสิน-กสิกรไทย ฟรีค่าธรรมเนียม ไม่จำกัดจำนวนครั้ง มุ่งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นโยบายเครื่องเอทีเอ็มสีขาวของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในการใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ทั้งนี้ จะมีการยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้กับลูกค้า ครอบคลุมการถอนเงินสด สอบถามยอดเงิน และการโอนเงินระหว่างบัญชีที่ผูกกับบัตร โดยลูกค้าของแต่ละธนาคารจะสามารถทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็มของอีกธนาคารหนึ่งเสมือนใช้บริการของธนาคารที่ลูกค้าถือบัตร ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2562 – 30 เมษายน 2563 โดยธนาคารกสิกรไทยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างธนาคารทันทีที่ลูกค้าทำรายการ ขณะที่ธนาคารออมสินจะคืนค่าธรรมเนียมที่ถูกเรียกเก็บให้กับลูกค้าในวันถัดไป
โครงการ White Lable ATM มีแนวโน้มแบงก์ใหญ่จะสร้าวกลุ่มของตัวเองมากกว่าจะเข้าร่วมกับกสิกรไทย+ออมสิน แต่จะมีแบงก์ขนาดกลางและเล็กมาเข้าร่วมแทน
สำหรับระยะแรกความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มระหว่างธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทย จะนำร่องในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร นครพนม ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยมีเครื่องเอทีเอ็มในพื้นที่ 5 จังหวัดดังกล่าว เกือบ 400 เครื่อง และในระยะต่อไปของการให้บริการจะขยายพื้นที่ทั่วประเทศ
เครื่อง ATM ทั้งระบบมีแนวโน้มลดลง
ปี60- 59000 เครื่อง
ปี61- 58000 เครื่อง
ปี62- 57000 เครื่อง
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ความร่วมมือในวันนี้ของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารออมสินเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการเอทีเอ็มสีขาว หรือ White Label ATM ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าของทั้ง 2 ธนาคาร ในการใช้บริการที่เครื่องเอทีเอ็มจากการมีเครือข่ายเอทีเอ็มที่ให้บริการครอบคลุมในพื้นที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์กับธนาคารที่จะลดค่าใช้จ่ายในการลงทุน การบริหารจัดการเอทีเอ็ม การบริหารจัดการเงินสด และช่วยให้จัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า การให้บริการทางการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็มในประเทศไทย มีมานานหลายสิบปี ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละแห่งต่างมีต้นทุนในการบริหารจัดการ แต่จากความร่วมมือการให้บริการเอทีเอ็มในครั้งนี้ ถือเป็นความร่วมมือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของธนาคารสามารถเข้าถึงและใช้บริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างเป็นต้นแบบเพื่อรองรับการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มกับลูกค้าของสถาบันการเงินเฉพาะกิจหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและขนาดเล็กที่ไม่ต้องการลงทุนเครื่องเอทีเอ็มหรือธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อนในการให้บริการเครื่องเอทีเอ็มในอนาคต
โดยรวมทุกแบงก์ต้องลดต้นทุนค่าดำเนินการ เพื่อเก็บเงินทุนไว้สร้างนวัตกรรมสู้กับพวก Fintech และพวกอี-คอมเมิร์ช (อาลีบาบา / เฟสบุ๊ก) และที่สำคัญที่สุดประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างสูงสุด.