SPCG ร่วมทุน 30,000 ลบ.ลุยโซลาร์รูฟไทย
SPCG จับมือ 3 พันธมิตร ทุ่มงบประมาณ 30,000 ล้านบาท ลุยธุรกิจโซลาร์รูฟในประเทศไทย ตั้งเป้ากวาดลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย ใน 2 ปี
นางวันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ( Solar Roof) ร่วมกับ Mitsubishi UFJ Lease & Finance Company Limited หรือ MUL, บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ PEA ENCOM และ KYOCERA Corporate, Japan หรือ KYOCERA เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสการลงทุนด้านโซลาร์รูฟในประเทศไทย
สำหรับการร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการร่วมทุนแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) และจัดตั้งบริษัทใหม่สัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น SPCG 35% MUL 35% PEA ENCOM 20% และ KYOCERA 10% ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง จะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมกันภายในวันที่ 31 ก.ค.62
นางวันดี กล่าวว่า ระยะแรกจะเน้นกลุ่มลูกค้าหรือนักลงทุนในภาคอุตสาหกรรมจากประเทศญี่ปุ่นที่มีการตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย โดยเป้าหมายเริ่มแรกในปีนี้ คาดว่าจะมีลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ประมาณ 100 ราย กำลังการผลิต 50-100 เมกะวัตต์ และภายใน 2 ปี (2562-2563) จะมีลูกค้าไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย กำลังการผลิตประมาณ 500 เมกะวัตต์ โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ 30,000 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทจะเป็นผู้สนับสนุนเงินลงทุนในการติดตั้ง Solar Roof ให้กับลูกค้าทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการติดตั้ง Solar Roof ประมาณ 35,000 – 45,000 บาท ต่อ 1 กิโลวัตต์ สำหรับพื้นที่หลังคาโรงงานประมาณ 10,000 ตารางเมตร จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1 เมกะวัตต์ ( 1,000 กิโลวัตต์เท่ากับ 1เมกะวัตต์ )
ส่วนรายได้ในปี 2562 บริษัทยังคงเป้าหมายไว้ที่ 7,000 ล้านบาท มาจาก 2 ธุรกิจหลักคือ โซลาร์ฟาร์มจำนวน 36 โครงการ รวมกำลังผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 70 เปอร์เซ็นต์ และมาจากโซลาร์รูฟท็อป 25 เปอร์เซ็นต์.