จีนโทษภาษี ‘ทรัมป์’ ทำเงินหยวนดิ่ง
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนลดฮวบลงต่ำอยู่ที่ 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยธนาคารกลางของจีนระบุว่า ค่าเงินหยวนลดลงจาก “ภาษีที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นกับจีน”
เป็นครั้งแรกที่ค่าเงินหยวนดิ่งเหวลงต่ำกว่าระดับการซื้อขายในตลาดต่างประเทศในฮ่องกง นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา และต่ำที่สุดในตลาดในประเทศนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามสกุลเงินระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
โดยค่าเงินลดลงในช่วงไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯขู่จะขั้นภาษีรอบใหม่ 10% กับสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. นี้
ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) หรือธนาคารกลางของจีนกล่าวโทษค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงว่าเกิดจาก “ นโยบายการกีดกันทางการการค้าตามอำเภอใจ รวมถึงการคาดการณ์ภาษีที่เพิ่มขึ้นกับจีน ”
“ ทาง PBOC มีประสบการณ์ ความเชื่อมั่น และความสามารถที่จะคงอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีเสถียรภาพโดยพื้นฐานให้อยู่ในระดับสมดุลเชื่อถือได้ ” ธนาคารกลางเสริมโดยไม่ได้ให้รายละเอียดถึงสิ่งที่ธนาคารมองว่าเป็นระดับที่เหมาะสม
อี้กัง ผู้ว่าการ PBOC ลดความสำคัญลงด้วยการให้ค่าเงินหยวนอยู่เกิน 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในปีนี้ แม้จีนจะไม่ยอมให้เงินหยวนเป็นเครื่องมือทลายอุปสรรคการกีดกันทางการค้า
มีการยกคำให้สัมภาษณ์ของปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้าประจำทำเนียบขาว (ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลในนโยบายรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีกับจีน) ที่ให้สัมภาษณ์กับช่องฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ว่า จีนต้องรับมือกับ ‘บาป 7 ประการ’ เพื่อยุติสงครามการค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะหยุดการควบคุมค่าเงินได้
ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่อ่อนค่าลงหมายความว่า สินค้าจีนจะมีราคาถูกลงเมื่อเทียบต่อดอลลลาร์สหรัฐฯ ทำให้จีนยังคงความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจไว้ได้แม้จะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ก็ตาม