ออมสินแฉเล่ห์เหลี่ยมโกงบ้านประชารัฐ
ออมสินเตือนประชาชนตรวจสอบสัญญาให้รอบคอบโครงการบ้านประชารัฐ หวั่นเอกชนมั่วนิ่มทำสัญญาไม่ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด 4 ประการ ห้ามตกหล่นแต่อย่างใด
“เราจำเป็นต้องเตือนประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านในโครงการบ้านประชารัฐ ต้องมีสัญญาแนบท้ายที่ระบุอย่างชัดเจนว่า ภาคเอกชนต้องมีส่วนร่วมในโครงการนี้” นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และกล่าวว่า
เงื่อนไขที่สำคัญมีทั้งหมด 4 ข้อ ประกอบด้วย 1. ราคาบ้านไม่เกิน 1.5 ล้านบาท 2. ไม่เก็บค่าส่วนกลางเป็นระยะเวลา 1 ปี 3. เอกชนที่เข้าร่วมโครงการจะเป็นผู้ออกค่าโอนและจดจำนอง และ 4. เอกชนจะมอบส่วนลดพิเศษให้แก่ผู้ซื้อ 2% ของราคาบ้าน ซึ่งจะขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้เป็นอันขาด
“ขณะนี้ ยอดการแสดงความจำนงของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดล่าสุดมีประชาชนแสดงความสนใจประมาณ 13,000-14,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 15,000 ล้านบาท จากวงเงินสินเชื่อในโครงการทั้งหมด 20,000 ล้านบาท”
ทั้งนี้ การแสดงความสนใจติดต่อหรือทำเรื่องยื่นกู้เข้ามานั้น ไม่ได้หมายความว่า ธนาคารออมสินจะปล่อยกู้ให้ทั้งหมด เพราะโครงการนี้มีเงื่อนไขที่สำคัญคือต้องเป็นบ้านหลังแรก ซึ่งจะเป็นบ้านใหม่หรือบ้านมือสองก็ได้ โดยธนาคารออมสินจะเปิดให้ประชาชนทำเรื่องขอกู้เข้ามาประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งทะลุวงเงินของโครงการเพราะจากการตรวจสอบในเบื้องต้นมีลูกค้าหลายรายที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด
นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางรายยังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการบ้านประชาชน โดยประชาชนต้องตรวจสอบเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ให้ดี
“อยากเตือนประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ต้องตรวจสอบเอกสารแนบท้ายของสัญญาด้วยว่าปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่ หากเอกชนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขธนาคารก็ไม่สามารถปล่อยกู้ได้” ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวและกล่าวว่า
จากเท่าที่ประเมินในขณะนี้ คาดว่าจะมีประชาชนที่ติดต่อเข้ามาหรือทำเรื่องยื่นกู้ประมาณ 60-70% มีคุณสมบัติครบถ้วน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30-40% เอกสารหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ จึงอยากเตือนประชาชนว่าให้ตรวจสอบเงื่อนไขต่างๆ ให้ดีด้วย โดยเฉพาะสิทธิพิเศษที่ผู้ประกอบการมอบให้นั้น จะต้องมีการเขียนระบุเอาอย่างชัดเจนในเอกสารแนบท้ายจะได้ไม่เสียเวลาหรือโอกาสในการเข้าร่วมโครงการนี้ และที่สำคัญผู้ยื่นเรื่องกู้จะมีสิทธิ์ได้รับสินเชื่อจากธนาคารเพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือ ธนาคารออมสิน หรือธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งขณะนี้คาดว่า จะมีการการติดต่อหรือทำเรื่องยื่นกู้ซ้ำกันไปมาแต่ไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 29 มี.ค.59 มีประชาชนแสดงความจำนงกู้เงินกับธนาคารออมสิน 18,092 ราย วงเงิน 20,054 ล้านบาท จากจำนวนสาขาทั้งหมด 1,000 แห่ง ขณะที่ ธอส.แสดงความจำนง 13,800 ราย วงเงิน 1,380 ล้านบาท จากสาขาเกือบ 200 แห่งทั่วประเทศ.