ไฮสปีดเทรน-ท่าเรือมาบตาพุด เซ็ญสัญญา ก.ค.นี้
บอร์ด อีอีซี รับทราบ ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 เตรียมลงนามทั้ง 2 โครงการ ก.ค. นี้
รายงานข่าวจาก การประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 6/2562 โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณา และรับทราบความคืบหน้าขั้นตอนการดำเนินงานโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน กพอ.รับทราบ ความคืบหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ที่ได้ผ่านความเห็นชอบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน แล้ววันนี้ (24 มิ.ย. 2562) คาดว่า รฟท. จะสรุปแผนส่งมอบพื้นที่กับเอกชน และลงนามได้ภายใน ก.ค. 2562 ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะถือว่าเป็นโครงการฯ ร่วมทุนรัฐและเอกชนในพื้นที่ อีอีซี เป็นโครงการแรก
ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 กพอ.รับทราบ ผลการประชุม คณะรัฐมนตรีเรื่องโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดฯ และอนุมัติผลการคัดเลือก ผลการเจรจา และให้กรรมการพิจารณาร่างสัญญาที่ผ่านมาการพิจารณาจากสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว และให้ความเห็นกลับมาภายในวันที่ 1 ก.ค. 2562 ก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนในโครงการฯ กับเอกชนที่ได้รับคัดเลือก ภายในเดือนก.ค. 2562 เช่นกัน
โครงการ ฯ นี้ ได้ผ่าน EIA แล้ว โดย สผ.จะนำเสนอให้ ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป หลังจากนั้นการนิคมอุตสาหกรรม จะสามารถลงนามสัญญากับเอกชนเพื่อบริหารจัดการถมทะเลได้
สำหรับ ความคืบหน้าจากทั้งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 ถือเป็นการผลักดันโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ สร้างการลงทุนมูลค่าสูงถึง (รวม 2 โครงการ) 271,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูง ฯ 224,000 ล้านบาท และโครงการท่าเรือมาบตาพุด 47,900 ล้านบาท