ซีอีโอคาเธย์ประกาศลาออกท่ามกลางประท้วงฮ่องกง
ฮ่องกง (ซีเอ็นเอ็นบิสซิเนส) – รูเพิร์ต ฮ็อกก์ ผู้บริหารสายการบินคาเธย์ แปซิฟิก ประกาศลาออก หลังสัปดาห์แห่งความวุ่นวายที่สายการบินชั้นนำของฮ่องกงต้องเผชิญ
สายการบินคาเธย์ แปซิฟิกตกอยู่ท่ามกลางกระแสความวุ่นวาย หลังผู้ประท้วงฝั่งประชาธิปไตยลุกฮือสร้างความไม่พอใจให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้สายการบินเองและราคาหุ้นของสายการบินทรุดหนัก เที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวบินต้องยกเลิก เมื่อผู้ประท้วงเข้ายึดท่าอากาศยานานาชาติฮ่องกง และทำให้ยอดจองเที่ยวบินลดลงอีกด้วย
นายฮ็อกก์ เขียนผ่านบันทึกให้กับพนักงานในสายการบิน ซึ่งทางคาเธย์ แปซิฟิกได้นำมาเผยแพร่กับซีเอ็นเอ็น บิสซิเนสว่า “นี่เป็นช่วงเวลาวิกฤติและหนักหนาสำหรับสายการบินของพวกเรามาก แน่นอนว่าภาพลักษณ์และสายการบินของเราต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหนักหนาและแรงกดดันนี้ยังได้ก่อตัวขึ้นมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะในตลาดที่สำคัญที่สุดอย่างจีนแผ่นดินใหญ่” “ถ้าถามเราจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยวิธีอื่นได้ไหม? เมื่อมองย้อนกลับไปล่ะก็ แน่นอน”
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ในประกาศของสายการบินคาเธย์ แปซิฟิก พอล ลู ผู้บริหารด้านการตลาด เองก็ประกาศลาออกจากตำแหน่งผ่านรายงานตลาดหุ้น โดยสื่อของรัฐบาลจีนเป็นผู้รายงานข่าวการลาออกในครั้งนี้เป็นแห่งแรก และทั้งหมดจะมีผลภายในวันที่ 19 ส.ค.
จอห์น สโลซาร์ ประธานสายการบิน ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “ในเหตุการณ์ไม่นานมานี้ ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยที่เป็นเหมือนพันธสัญญาของสายการบิน รวมถึงทำให้ภาพลักษณ์และสายการบินต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอีกด้วย” “เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเนื่องจากสายการบินของเรา ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยมากที่สุดมาโดยตลอด”
นายสโลซาร์ ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ แต่สายการบินเองก็ตกเป็นส่วนหนึ่งของกระแสความขัดแย้ง เนื่องจากการประท้วงในครั้งนี้อยู่บางครั้ง
ในสัปดาห์ก่อน จีนแผ่นดินใหญ่ระบุว่า ไม่อนุญาตให้ลูกเรือของคาเธย์ แปซิฟิกที่เข้าร่วมเป็น “ส่วนหนึ่งของการเดินขบวน การประท้วง และการใช้ความรุนแรงโจมตีที่ผิดกฎหมาย” ขึ้นบิน โดยสายการบินคาเธย์ รับปากว่าจะปฏิบัติตาม
ภายหลังจากนั้น สายการบินคาเธย์ ได้ประกาศเตือนจะไล่พนักงานที่เข้าร่วมการประท้วงผิดกฎหมายในครั้งนี้ออก โดยในวันที่ 14 ส.ค.สายการบินได้ปลดนักบิน 2 ราย โดยไม่ได้ให้เหตุผลใด ๆ โดยแหล่งข่าวชั้นดีจากภายในสายการบินให้ข้อมูลกับซีเอ็นเอ็นว่า นักบินทั้ง 2 ราย ถูกไล่ออกเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวกับข้องกับการประท้วงในครั้งนี้
แหล่งข่าวของสายการบินระบุว่า นักบินรายหนึ่งถูกจับเนื่องจากข้อหาก่อจลาจล ในฮ่องกง และถูกห้ามไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่นับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา
ปัญหาที่พนักงานของสายการบินเข้าร่วมการประท้วงในฮ่องกงไม่ใช่ปัญหาเดียวที่สายการบินคาเธย์ ต้องเผชิญ ความวุ่นวายทางการเมืองที่เข้าครอบงำฮ่องกงมาตลอดเกือบ 11 สัปดาห์ก็กำลังส่งผลต่อผลประกอบการของคาเธย์ด้วยเช่นกัน
สายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 150 เที่ยวบินในสัปดาห์ก่อน ท่ามกลางเหตุการณ์เดินขบวนและการปะทะ โดยการประท้วงในท่าอากาศยานานาชาติฮ่องกงทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินทั้งหมดเกือบ 1,000 เที่ยวบิน
สัปดาห์ก่อน คาเธย์ระบุว่า การประท้วงในครั้งนี้ส่งผลต่อจำนวนผู้โดยสารในเดือนก่อน และจะยังคงส่ง “ผลกระทบในทางลบ” ต่อการจองเที่ยวบินในอนาคตอีกด้วย
หุ้นของบริษัทคาเธย์ทรุดตัวลงเกือบ 24% นับตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
นายฮ็อกก์ ระบุผ่านแถลงการณ์ว่า “เป็นเกียรติของผมที่ได้เป็นผู้นำคาเธย์ แปซิฟิก กรุ๊ปในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ผมมั่นใจในอนาคตของฮ่องกงที่เป็นเหมือนศูนย์กลางการบินของเอเชีย อย่างไรก็ตาม หลายสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างท้าทายสำหรับคาเธย์ แปซิฟิก และเป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ผมและพอลจะรับผิดชอบในฐานะผู้นำของบริษัทครับ”
ทั้งนี้ ออกัสทัส ทัง ประธานบริษัทฮ่องกง แอร์คราฟท์ เอ็นจิเนียริง จะมารับตำแหน่งประธานบริษัทแทนนายฮ็อกก์ และโรนัลด์ แลม หัวหน้าของบริษัท HK เอ็กซ์เพรส จะมารับตำแหน่งแทนนายลู