สุริยะ ถก ก.เกษตร แก้ปัญหาทำเหมืองพื้นที่ ส.ป.ก.
สุริยะ ตรวจเยี่ยม กพร. เน้นนโยบายจัดหาวัตถุดิบแก่ภาคอุตสาหกรรม เร่งอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการ เตรียมประสานกระทรวงเกษตร แก้ปัญหาทำเหมืองแร่ในพื้นที่ ส.ป.ก.
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจเยี่ยมกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) และมอบนโยบายให้ กพร.จัดหาวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม โดยระบุว่า รัฐบาลมีเป้าหมายสำคัญที่จะพัฒนาเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันของไทย ซึ่ง กพร. มีภารกิจหลักในการจัดหาวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ทั้งวัตถุดิบจากแหล่งธรรมชาติ (Natural Raw Materials) วัตถุดิบทดแทน (Secondary Raw Materials) จากการรีไซเคิลขยะหรือของเสียและวัตถุดิบขั้นสูง (Advanced Raw Materials) เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมให้มีความก้าวหน้าจากการใช้วัตถุดิบที่เพียงพอและมีคุณภาพ ผ่านการอนุญาตประกอบกิจการผลิตแร่ป้อนเป็นวัตถุดิบให้กับภาคอุตสาหกรรม
รวมทั้งวัสดุก่อสร้างรองรับโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของประเทศ การวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่หลากหลาย โดยให้ความสำคัญกับการรีไซเคิลขยะหรือของเสียที่เกิดขึ้นในประเทศ รวมถึงผลพลอยได้ (By-products) จากกระบวนการผลิตเพื่อแยกสกัดแร่และโลหะให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่
นอกจากนี้ ยังได้ให้นโยบายในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการวัตถุดิบ ดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแร่คุณภาพสูงและโลหะขั้นสูงที่ใช้ในอุตสาหกรรมศักยภาพ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือผู้ที่สนใจเข้ารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัตถุดิบขั้นสูง เพื่อเพิ่มคุณภาพวัตถุดิบให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในเชิงเศรษฐกิจ สำหรับเป็นวัตถุดิบทดแทนหรือวัตถุดิบที่มีความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมศักยภาพ เช่น การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพเส้นใยจากหินบะซอลต์สำหรับทดแทนแร่ใยหินและการเพิ่มคุณภาพหินปูนในอุตสาหกรรมซีเมนต์ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมอาหารและยา อันเป็นการยกระดับศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
และ ยังได้มอบหมายให้ กพร. ดำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายหลักและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลอีกหลายประการ เช่น การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก โดยในปีนี้ กพร. มีบทบาทสำคัญในการเป็นหน่วยงานผู้แทนไทยจัดการประชุมภายใต้กรอบความร่วมมือด้านแร่ธาตุอาเซียน เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านแร่ของประเทศสมาชิกให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงเน้นย้ำการยกระดับอุตสาหกรรมแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ดี กระทรวงอุตสาหกรรมเล็งเห็นถึงความสำคัญของการยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงมีการประกาศนโยบายเหมืองแร่สีเขียว (Green Mining Policy) ส่งเสริมสถานประกอบการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR-DPIM) และบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภายใน สถานประกอบการ และเครือข่ายภาคประชาชน ให้มีส่วนร่วมในการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมถึงส่งเสริมกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการประกอบกิจการ นำไปสู่การผลักดันอุตสาหกรรมแร่และอุตสาหกรรมพื้นฐานให้สามารถสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำแนวนโยบายของรัฐบาลมาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมต่อไป
“นโยบายสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ โดยให้พิจารณาอนุญาตประทานบัตรและใบอนุญาตต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สำหรับผู้ประกอบการที่มีความจำเป็นเรื่องการใช้ประโยชน์พื้นที่ เช่น พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ขอให้ กพร.เร่งดำเนินการ ส่วนกรณีการขออนุญาตสำรวจและทำเหมืองแร่ในพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจะประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมต่อไป” นายสุริยะ กล่าว