ESSO ทุ่ม3,000 ลบ.ขยายปั๊ม-ออกน้ำมันสูตรใหม่
ESSO ทุ่มงบประมาณ 3,000 ล้านบาท ปรับโฉม ขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 700 แห่ง พร้อมเทงบอีก 50 ล้านบาท ทำการตลาดน้ำมันสูตรใหม่
นายมาโนช มั่นจิตจันทรา กรรมการและผู้จัดการฝ่ายการตลาดขายปลีก บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือESSO เปิดเผยว่า บริษัทจะใช้งบลงทุนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อปี ขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 700 แห่งในอีก 2 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีอยู่ 617 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 640 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยเน้นขยายสถานีบริการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และปริมณฑล
และเตรียมใช้งบประมาณ 40-50 ล้านบาท ทำการตลาด สำหรับน้ำมันสูตรใหม่ภายใต้เทคโนโลยี”ซีเนอร์จี้” (Synergy Fuels Technology) จากเอ็กซอนโมบิล สำหรับน้ำมัน 6 สูตรทั้งเก๊สโซฮอล์ และดีเซล เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำมันคุณภาพสูงสอดรับกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งจะช่วยปกป้องเครื่องยนต์ โดยเฉพาะน้ำมันคุณภาพพรีเมียม ทั้งซูพรีมพลัส แก๊สโซฮอล์ 95 และซูพรีมพลัส ดีเซล สามารถปกป้องเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าและทำให้เครื่องยนต์สะอาดมากขึ้น 30% เพิ่มอัตราเร่งและตอบสนองเครื่องยนต์ที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้จากการทดสอบอัตราการประหยัดสำหรับน้ำมันดีเซล พบว่าสามารถประหยัดได้ราว 3%
ขณะเดียวกันยังมีแผนจะใช้งบ 600-700 ล้านบาทเพื่อปรับโฉมสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศให้กลายเป็นรูปแบบซีเนอร์จี้ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของสถานีบริการเอ็กซอนทั่วโลก ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วกว่า 70% จากสถานีบริการน้ำมันที่มีอยู่ 617 แห่งทั่วประเทศ คาดว่าสถานีบริการน้ำมันที่เหลือจะปรับโฉมเสร็จภายในต้นปี 63
ส่วนกรณีที่รัฐบาลมีแผนจะให้น้ำมันดีเซล B10 เป็นเกรดมาตรฐาน แทนน้ำมันดีเซล B7 ในปัจจุบันนั้น บริษัทก็พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล แต่ปัจจุบันน้ำมันดีเซล B10 ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับของรถยนต์ค่ายยุโรปทั้งหมด ทำให้บริษัทยังอยู่ระหว่างทดสอบในห้องแล็ปเพื่อนำเทคโนโลยีซีเนอร์จี้เข้ามาใช้สำหรับน้ำมันดีเซล B10 เพื่อเตรียมตัวรองรับการใช้ในอนาคต
ด้านนายยอดพงศ์ สุตธรรม ผู้จัดการโปรแกรมการตลาด การตลาดน้ำมันภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท เอ็กซอนโมบิล จำกัด เปิดเผยว่า การจำหน่ายน้ำมันตามมาตรฐานยูโร 5 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น จะต้องมีการลงทุนเพื่อปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันซึ่งเอ็กซอน มีทีมงานเพื่อศึกษาและเตรียมตัวที่จะผลิตน้ำมันเพื่อให้ตามมาตรฐานที่ประเทศไทยกำหนดอยู่แล้ว แต่การจะลงทุนเพื่อเตรียมตัวก่อนนั้นก็จะต้องพิจารณาจุดที่เหมาะสมและคุ้มทุนด้วย
สำหรับทิศทางการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นั้น เอ็กซอน ได้ทดลองติดตั้งสถานีชาร์จรองรับยานยนต์ไฟฟ้า ในยุโรปและเอเชีย พบว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกส่วนใหญ่ 95% เป็นการชาร์จในที่อยู่อาศัย ส่วนอีก 5% เป็นการชาร์จตามศูนย์บริการ หรืออาคารสำนักงาน ทำให้เอ็กซอนเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะลงทุน แต่หากตลาดมีความต้องการมากขึ้นบริษัทก็มีความพร้อมที่จะดำเนินการ