ธอส.ปล่อยกู้ใหม่ 7 ด.ทะลุ 1.06 แสนล.
ธอส.แจงยอดสินเชื่อคงค้างรวมทะลุ 1.14 ล้านล้านบาท ชี้ผลงาน 7 ด.แรกปีนี้ ปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 1.06 แสนล้านบาท คาดทั้งปีเดินตามเป้า 2.03 แสนล้านบาท หลังรับอานิสงส์จาก “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ – แบงก์ชาติลดอัตราดอก – ลูกค้าเริ่มคุ้นเกณฑ์คุม LTV” เผยลุยผ่อนปรนเกณฑ์เพิ่มเติม พ่วงปรับปรุงวิธีให้บริการ และออกผลิตภัณฑ์ใหม่อัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ ตั้งเป้านำเงินฝากสลากออมทรัพย์ฯ ทำสินเชื่อให้คนจน ดอกเบี้ยต่ำคงที่นาน 3 ปีแรก
นายฉัตรชัย ศิริไล กก.ผจก.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวถึงผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 62 ณ (30 มิ.ย.) ว่า ได้ปล่อยสินเชื่อปล่อยใหม่เพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านตามพันธกิจของธนาคารฯ 89,373 ล้านบาท 67,248 บัญชี เป็นสินเชื่อปล่อยใหม่วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง 45,682 ราย ทำให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/2562 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1,144,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.86% มีสินทรัพย์รวม 1,191,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.74% เงินฝากรวม 953,886 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.66% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 53,554 ล้านบาท คิดเป็น 4.68% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.51% จาก ณ สิ้นปี 61 ซึ่ง NPL อยู่ที่ 4.17% ของสินเชื่อรวม และมีกำไรสุทธิ 6,036 ล้านบาท ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ 14.94% ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 8.50% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
“ จำนวนสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ 89,373 ล้านบาท ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายในช่วง 6 เดือนแรกที่ตั้งไว้ 100,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากจำนวนวันหยุดหลายวัน รวมถึงประชาชนยังอยู่ระหว่างการปรับตัวเพื่อปฏิบัติตามเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยด้วยการคุมระดับวงเงินกู้ต่อมูลค่าหลักประกัน หรือ Loan to Value (LTV) ของธปท. ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย.62 แต่ถือว่าผลกระทบต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเดิมที่คาดว่าจะทำให้สินเชื่อปล่อยใหม่ต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 30% จากเป้าหมายปี 62 ที่ 203,000 ล้านบาท และล่าสุด ณ วันที่ 31 ก.ค.62 พบว่าธนาคารฯสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่รวมที่ 106,454 ล้านบาท ” นายฉัตรชัย กล่าว
สำหรับความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลที่จัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่มีทิศทางปรับลดลงหลังจาก ธปท.ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะเดียวกันประชาชนเริ่มปรับตัวรับเกณฑ์คุม LTV ที่ล่าสุดได้มีการผ่อนปรนการนับสัญญากรณีผู้กู้ร่วมที่ไม่มีชื่อเป็นกรรมสิทธิ์จะเสมือนยังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น รวมทั้งธนาคารฯยังได้ปรับปรุงวิธีการให้บริการ พร้อมจัดทำผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มรายได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะมีลูกค้าเข้าสู่กระบวนการพิจารณาสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น และทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ตามเป้าหมาย 203,000 ล้านบาทต่อไป
สำหรับครึ่งปีหลัง ได้เตรียมจัดทำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจและผลักดันให้สินเชื่อใหม่เป็นไปตามเป้าหมาย อาทิ การนำเงินฝากที่ได้รับจากการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รุ่นที่ 1 ชุดวิมานเมฆ หน่วยละ 1 ล้านบาท 27,000 ล้านบาท มาจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ไม่เกิน 3 ปีแรก สำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลางที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการบริการรูปแบบดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี โดยพัฒนาบริการต่างๆ มาอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะ Mobile Application : GHB ALL ที่นอกจากให้บริการด้านการชำระเงินกู้ ตรวจสอบสถานะสินเชื่อ เช็คยอดเงินฝาก ดู statement และโอนเงินแล้ว ปัจจุบันยังมีฟังก์ชั่นที่ให้บริการได้เพิ่มเติม อาทิ การเชื่อมต่อกับระบบการค้นหาทรัพย์ NPA การหาสถานที่ตั้งสาขา การจองคิวเข้าใช้บริการ การเชื่อมต่อกับระบบสะสมแต้มเพื่อลุ้นรับของรางวัลในโครงการ GHB Reward และในเร็วๆ นี้จะสามารถให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสลากออมทรัพย์ ธอส. อาทิ แจ้งผลการถูกรางวัล ก่อนจะพัฒนาให้สามารถตรวจสอบตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC ได้ต่อไปช่วงต้นปี 63
ธนาคารฯตั้งเป้าหมายให้จำนวน Transactions ผ่านช่องทางดิจิทัล ประกอบด้วย Mobile Application : GHB ALL เครื่องรับชำระหนี้เงินกู้อิเล็กทรอนิกส์ : LRM และเครื่องชำระเงินกู้ไร้เงินสด : QR Non Cash Payment ณ สิ้นปี 2562 อยู่ที่ 60% จากเดือน มิ.ย.62 อยู่ที่ 46% ซึ่งจะทำให้มีต้นทุนดำเนินงานต่ำลง และสามารถจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อให้คนไทยได้มีบ้านเพิ่มขึ้น.