ครอบครัวผู้นำสิงคโปร์ขัดแย้งหนัก
ความบาดหมางที่มีมายาวนานในครอบครัวนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เกี่ยวกับมรดกของบิดา ซึ่งเป็นผู้นำคนแรกของสิงคโปร์ ได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง
โดยพี่น้อง 2 คนของนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงได้โพสต์ในเฟซบุ๊กกล่าวหานายกฯ ลีว่าไม่ทำตามความประสงค์ของบิดาในช่วงสุดท้ายของชีวิตและสั่นคลอนอำนาจของเขา
ข้อพิพาทของครอบครัวเกี่ยวข้องกับบ้านของบิดา แต่นายกฯ ลี ซึ่งเป็นผู้นำที่ได้รับความนิยมจากประชาชน ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
แต่ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องช็อกความรู้สึกประชาชนจำนวนมากในสิงคโปร์ เนื่องจากครอบครัวลีได้รับการยกย่อง และเคารพนับถือว่าเป็นครอบครัวหมายเลข 1 ของประเทศ
ทั้งนี้ ลีกวนยู ผู้พ่อเป็นนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์หลังจากได้เอกราชในปี 2508 และได้รับการยกย่องในความสามารถของเขาที่เปลี่ยนแปลงพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
หลายคนเรียกขานเขาว่า LKY อย่างไรก็ตาม อดีตผู้นำคนแรกของประเทศถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงนโยบายการเมืองที่เข้มงวดเฉียบขาด และเขาสั่งจำคุกและฟ้องร้องฝ่ายตรงข้าม และจำกัดเสรีภาพจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม เขายังคงได้รับความรักความชื่นชมจากชาวสิงคโปร์มาจนถึงทุกวันนี้ เห็นได้จากพิธีเคลื่อนศพของเขาในปี 2558 ที่มีผู้คนจำนวนมากยืนเรียงรายตามถนนด้วยท่าทีเศร้าโศกเพื่อแสดงความเคารพและอาลัยรักเขา
ข้อพิพาทของครอบครัวเป็นที่รับรู้ของสาธารณชนครั้งแรกในปีที่แล้วในพิธีครบรอบการถึงแก่อนิจกรรมของอดีตนายกฯ ลีกวนยู เมื่อลีเหว่ยหลิง น้องสาว กล่าวหานายกฯ ลีว่า ใช้ประโยชน์จากมรดกของบิดาเพื่อให้กลายมาเป็นของเขา
ในช่วงเช้าวันที่ 14 มิ.ย. น.ส.ลีและน้องชาย ลีเซียนหยางออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาขาดความเชื่อมั่นในตัวนายกฯลี ในฐานะผู้นำประเทศ
โดยทั้งสองคนกล่าวหาผู้นำสิงคโปร์ว่า คัดค้านที่จะปฏิบัติตามความประสงค์ของบิดา ( ซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรม) ว่าบ้านของครอบครัวที่ตั้งอยู่ที่ 38 ถนนอ็อกซ์ลีย์จะต้องถูกทุบทำลายทิ้ง แทนที่จะกลายเป็นอนุสาวรีย์ให้กับเขา
นายกฯ ลีเคยแถลงก่อนหน้านี้ว่า เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของรัฐบาลในเรื่องบ้านหลังนี้ และโดยส่วนตัว เขาต้องการที่จะให้เกียรติกับความประสงค์ของบิดา
แต่ทางพี่น้องของนายกฯลีกล่าวหาเขาว่ากลับคำและเปลี่ยนท่าทีจากเดิม นอกจากนี้ยังกล่าวว่าพวกเขารู้สึกเกรงกลัวจากการใช้ตำแหน่งและอิทธิพลที่มีต่อรัฐบาลสิงคโปร์และหน่วยงานต่างๆ ในทางที่มิชอบเพื่อขับเคลื่อนประเด็นส่วนตัวของนายกฯลี อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีหลักฐานเฉพาะเจาะจงที่สนับสนุนข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นายกฯ ลีซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 2547 แถลงเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ว่า เขารู้สึกผิดหวังมากที่พี่น้องนำเรื่องในครอบครัวมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ซึ่งเป็นการทำร้ายชื่อเสียงของบิดา