สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 15 ก.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.น่าน (78 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.สกลนคร (66 มม.) ภาคกลาง : จ.นครปฐม (70 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (105 มม.) ภาคตะวันตก : จ.เพชรบุรี (62 มม.) ภาคใต้ : จ.พังงา (142 มม.)
สภาพอากาศวันนี้ : ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งเนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 16 – 18 ก.ค. 68 ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาว ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
2. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก : น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค
แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำเพื่อการเกษตร
แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
3. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 58% ของความจุเก็บกัก (46,377 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 38% (22,199 ล้าน ลบ.ม.)
สทนช. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน โดยเน้นการลดความเสี่ยงจากอุทกภัยและเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน พร้อมทั้งสร้างการรับรู้แก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์การแจ้งเตือน และจัดเตรียมมาตรการช่วยเหลือผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างทั่วถึงและทันท่วงที
4. มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 : วานนี้ (14 ก.ค.68) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จัดการประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำชี ครั้งที่ 6/2568 วาระเร่งด่วน ณ ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยมี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานกรรมการลุ่มน้ำชี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย คณะกรรมการลุ่มน้ำชี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมการประชุมครั้งนี้ มีวาระเร่งด่วนเพื่อพิจารณาเห็นชอบการปรับแผนการระบายน้ำเพื่อเตรียมรับมือฤดูฝน ปี 2568 ลุ่มน้ำชี ดังนี้
1. ระหว่างวันที่ 14-19 ก.ค. 68 ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ เหลือวันละ 7-10 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนจุฬาภรณ์ ปรับลดการระบายน้ำเหลือวันละ 0.2 ล้าน ลบ.ม.
2. ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. 68 เป็นต้นไป ให้การไฟฟ้าฝ้ายผลิตแห่งประเทศไทยดำเนินการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ โดยให้รักษาระดับควบคุมน้ำตอนล่าง (Lower Rule Curve) ทั้งนี้ให้เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนจุฬากรณ์สามารถปรับเพิ่มหรือลดการระบายน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ จนถึงช่วงปลายเดือนสิงหาคม
3. ให้กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนลำปาว สูงสุดไม่เกินวันละ 12 ล้าม ลบ.ม. (กรณีมีฝนตกท้ายเขื่อน)
ทั้งนี้ประธานได้มีข้อสั่งการให้กรมชลประทานหารือการระบายน้ำร่วมกับโครงการไฟฟ้าพลังน้ำห้วยประทาว เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2568 และป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ จ.ชัยภูมิ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 ก.ค. 68