ข่าวเด่น เย็นนี้ 16 ต.ค.2567
ข่าวเด่น เย็นนี้ ถ้าสังเกตุจะเห็นว่าช่วงเวลานี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หายหน้าหายตา ไม่ออกมาปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนเหมือนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
เรื่องที่ 5,254 ท่าทีดังกล่าวของทักษิณ ชินวัตร ประเมินได้ว่า กำลังเตรียมตั้งรับกับเกมการต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะลูกเล่นของลุงป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับการเดินเกมนิติสงคราม ใช้กฎหมายเล่นงานพรรคเพื่อไทย และทักษิณ ชินวัตร เอง
อีกทั้ง ทักษิณ ก็รู้แล้วว่าความเคลื่อนไหวของเขา ที่ออกข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นคุณแก่ตัวเอง ซ้ำร้ายยังเป็นภัยมากกว่า เพราะนั่นเท่ากับเป็นการเปิดช่องให้ฝ่ายตรงข้ามอาศัยช่องทางกฎหมาย เล่นงานได้โดยง่าย
โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ว่าทักษิณครอบงำนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย
กระทั่งถึงเวลานี้พรรคพลังประชารัฐลุกหนัก มีการยื่นร้องเรียนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ก็ว่าได้
ด้วยเหตุนี้ เราจึงเห็นการตั้งหลักของพรรคเพื่อไทยและทักษิณ คือการอยู่เงียบๆและประเมินสถานการณ์ เตรียมตั้งรับพร้อมโต้กลับ เมื่อมีโอกาส
เรื่องที่ 5,255 ล่วงเลยผ่านพ้นเดือนก.ย.ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเศรษฐกิจไทยจะยังไม่ฟื้น โดยล่าสุดผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. 67 จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท.
ซึ่งแถลงโดย “นาวา จันทนสุรคน” รองประธาน ส.อ.ท. ระบุว่า อยู่ที่ระดับ 87.1 ปรับตัวลดลง จาก 87.7 ในเดือนส.ค. 2567 ซึ่งมีปัจจัยด้านลบจากสถานการณ์อุทกภัย หรือน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง สร้างความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตรและอุตสาหกรรม รวมถึงพื้นที่การท่องเที่ยว
ที่สำคัญคือส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม มูลค่าสูงถึง 30,000 – 50,000 ล้านบาท ขณะที่กำลังซื้อในประเทศยังอ่อนแอจากแรงกดดันปัญหาหนี้ครัวเรือน ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย และการบริโภคสินค้าคงทนก็ยังคงชะลอตัวลง สะท้อนจากยอดขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในประเทศช่วง 8 เดือน (ม.ค. –ส.ค. 2567) หดตัว 24% และ 11%
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนและความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการอนุมัติสินเชื่อ ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการของภาครัฐ โดยวันที่ 27 ก.ย. 67 เบิกจ่ายงบลงทุนได้เพียง 63.31% ส่งผลให้ยอดขายสินค้าวัสดุก่อสร้างชะลอลง อีกทั้งปัญหาการทุ่มตลาดของสินค้าจีน ยังส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของไทยด้วย
ปัจจัยหลายอย่างรุมเร้าเหลือเกินเศรษฐกิจไทย แต่เห็นว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง. ก็เพิ่งหักปากกาเซียนลดดอกเบี้ยลงให้ 0.25% ก็หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะขอรับเจ้านาย
เรื่องที่ 5,256 เตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริง สคบ. หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ปมรับสินบนจาก “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” ซึ่งเป็นบริษัทที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ ณ เวลานี้ ซึ่ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ สคบ.เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ภายหลังมีการแพร่คลิปเสียงบันทึกการสนทนาที่มีเนื้อหาทำให้เข้าใจว่า มีผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์รายหนึ่งได้รับการช่วยเหลือจากพนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ.ในเรื่องที่ถูกร้องเรียน โดยเรื่องนี้มีขีดเส้นใต้ภายใน 30 วัน เหมือนจะร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาทันทีเลยว่ามั้ยขอรับเจ้านาย
สรุปข่าวเด่นต่างประเทศ
เรื่องที่ 5,257 ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 6.0% ในวันนี้ (16 ต.ค.) ซึ่งเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ซึ่ง อีไล เรโมโลนา ผู้ว่าการ BSP ชี้แจงว่า การตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นผลมาจากการประเมินของ BSP ที่มองว่าสถานการณ์เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้
นักเศรษฐศาสตร์ทั้ง 23 คนในโพลล์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ต่างคาดการณ์ตรงกันว่า BSP จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% และส่วนใหญ่ยังมองว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนธ.ค.นี้ด้วย โดยการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 เป็นต้นมา ส่วน BSP ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2567 ที่ปรับความเสี่ยงแล้ว ลงเล็กน้อยจาก 3.3% เหลือ 3.1% แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสำหรับปี 2568 และ 2569 ขึ้นเป็น 3.3% และ 3.7% จากเดิมที่ 2.9% และ 3.3% ตามลำดับ
เรื่องที่ 5,258 เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร (UK) ชะลอตัวสู่ระดับต่ำกว่าเป้า 2% ที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) กำหนดไว้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี และยิ่งเพิ่มแนวโน้มที่ว่าอาจมีการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนส.ค.ที่เงินเฟ้อพุ่งสูงถึง 2.2% โดยตัวเลขล่าสุดนี้ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564
ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) สำรวจความเห็น คาดว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 1.9% หรือแม้แต่ BOE เองก็เคยประมาณการไว้ในการประชุมเดือนส.ค.ว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 2.1% แม้แต่ราคาในภาคบริการที่ปกติปรับตัวช้า ก็เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงเช่นกัน ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
เรื่องที่ 5,259 ธนาคารกลางกัมพูชา (NBC) ออกธนบัตร 200,000 เรียล (ประมาณ 1,600 บาท) อย่างเป็นทางการในวันนี้(16 ต.ค.) เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
เจีย สะเร็ย ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชา ระบุในแถลงการณ์ว่า ธนบัตรฉบับใหม่นี้แสดงพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ร่วมกับพระมหาวีรกษัตรีย์นโรดม มุนีนาถ สีหนุ พระวรราชมารดา และพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์เพียงพระองค์เดียวที่ด้านหลังของธนบัตร ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ซึ่งมีพระชนมพรรษา 71 พรรษา เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งกัมพูชาเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2547 หลังพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ซึ่งล่วงลับไปแล้ว สละราชสมบัติด้วยเหตุผลด้านพระพลานามัย
เรื่องที่ 5,260 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า “เป่าลี่” และ “ชิงเป่า” แพนด้ายักษ์อายุ 3 ปีทั้ง 2 ตัว ได้เดินทางจากมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนถึงกรุงวอชิงตันดี.ซี. ของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) ด้วยเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกที่ใช้ระยะเวลาเดินทางราว 19 ชั่วโมง
โดยในรายงานระบุว่า เครื่องบินโบอิง 777เอฟ เที่ยวบิน “เฟดเอ็กซ์ แพนด้า เอ็กซ์เพรส” ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติดัลเลส ตอนราว 10:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และแพนด้ายักษ์ทั้ง 2 ตัวถูกเคลื่อนย้ายขึ้นรถบรรทุกเพื่อนำส่งสวนสัตว์แห่งชาติและสถาบันชีววิทยาการอนุรักษ์สมิธโซเนียน ทั้งนี้ นี่เป็นการส่งแพนด้ายักษ์จากจีนสู่สหรัฐฯ ครั้งที่ 2 ของปี 2567 โดยก่อนหน้านี้จีนส่งแพนด้ายักษ์ “อวิ๋นชวน” และ “ซินเป่า” สู่แคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ซึ่งออกโชว์ตัวสู่สายตาสาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา
โดยนพวัชร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สลาก N3 ขายวันแรก 17 ต.ค.นี้