ข่าวเด่น เย็นนี้ 5 ม.ค.2567
สรุปในการอภิปรายกฎหมายงบประมาณ 2567 พรรคก้าวไกล ได้เตรียมตัวมาอย่างดี โดยมีการแบ่งหน้าที่ให้กับ สส.อภิปรายไว้เป็นหมวดหมู่ เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำประเด็นกัน และ สส.ส่วนใหญ่ก็ได้เตรียมข้อมูลในการอภิปรายมาเป็นอย่างดี
เรื่องที่ 3,561 อย่างไรก็ตาม การอภิปรายของพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร เนื่องจากรูปแบบของการอภิปรายนั้น เป็นการอ่านตามสไลด์ PowerPoint ซะส่วนใหญ่ ซึ่งทำให้ท่วงท่าลีลาของการอภิปรายดูจืดชืด คล้ายการนำเสนอรายงานมากกว่าการอภิปราย
หากเปรียบกับจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์แล้ว จะเห็นมวยคนละรุ่น
เพราะแม้ จุรินทร์จะไม่มีข้อมูลใหม่ แต่การอภิปรายเสียดสีอย่างถูกจุด บวกกับท่วงท่าลีลาของการอภิปรายแบบมีอาชีพ จึงเรียกได้ว่าชนะขาด
นี่เป็นโจทย์ที่พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน จะต้องไปทำการบ้านเสียใหม่ ว่าการอภิปรายไม่ใช่การรายงานข้อมูล แต่เป็นการนำเสนอด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาอ่าน ถึงจะได้รับความสนใจ จากประชาชน
เรื่องที่ 3,562 เรียกว่ากระทบชิ่งกันไปหลายทอด สำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับฐานะการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2567
โดยข้อมูลที่ทางก้าวไกลหยิบยกมาก็คือ สภาพคล่องกระแสเงินสดของ กฟผ. จะลดลงเหลือ 10,000 ล้านบาท ในเดือนต.ค. 2567 และจะติดลบในเดือนธ.ค. 2567 ซึ่งอ้างอิงข้อมูลมาจากรายงานการประชุมของ กฟผ.
ล่าสุดคนจริงจาก กฟผ. อย่างชัยวุฒิ หลักเมือง ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษก กฟผ.ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลคาดการณ์เก่าเดือนต.ค. 2566 เป็นการคาดการณ์สถานะกระแสเงินสดของ กฟผ. ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2567
ใช้สมมุติฐานรายรับจากค่าไฟฟ้าที่ใช้ตัวเลขสมมุติฐานหน่วยละ 3.99 บาท จนถึงเดือนธ.ค. 2567 เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจให้กับพนักงานเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูลปัจจุบันของ กฟผ.
พร้อมกันนี้ยังบอกชัดเจนด้วยว่าผลประกอบการและสถานะการเงินจริงของ กฟผ. สิ้นปี 2566 จะมีกระแสเงินสดประมาณ 91,000 ล้านบาท ไม่ใช่ 61,623 ล้านบาท ที่สำคัญ กฟผ.ต้องบริหารทางการเงินเพื่อรักษาระดับเงินสดให้อยู่ในระดับ 60,000 ล้านบาท ซึ่งยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อใช้บริหารสภาพคล่องทางการเงินของ กฟผ.
การอภิปรายก็มีประโยชน์กับประชาชน เพราะทำให้พวกเราได้รู้ข้อมูลมากขึ้น เพราระทุกอย่างก็ล้วนแล้วแต่มีผลกระทบกับพวกเราทั้งสิ้นนะขอรับ
เรื่องที่ 3,563 ธนาคารออมสิน ขานรับนโยบายรัฐ เร่งช่วยเหลือลูกหนี้โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ซึ่งธนาคารได้ปล่อยกู้ให้รายละ 10,000 บาท เมื่อปี 2563 นั้น โดยธนาคารจะมีการทวงถามการชำระหนี้ก่อน แต่ถ้าหากลูกหนี้ยังมีภาระไม่สามารถชำระหนี้นั้นได้ตามปกติ ทางธนาคารจะนำงบประมาณที่รัฐจัดสรรสำหรับชดเชยความเสียหาย ตามโครงการสินเชื่อดังกล่าวมาช่วยเหลือลูกหนี้ให้หลุดพ้นจากสถานะหนี้เอ็นพีแอล และไม่เสียประวัติเครดิตอีกด้วย ธนาคารจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2567 เป็นต้นไป กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนม.ค. 2567 ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้จำนวน กว่า 630,000 ราย
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 3,564 เงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปีในเดือนธ.ค. แต่ตัวเลขเงินเฟ้อเฉลี่ยตลอดปี 2566 ยังคงสูงเหนือกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ซึ่งบั่นทอนความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
โดยในวันนี้ (5 ม.ค.) ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ยังไม่มีทีท่าว่าจะปรับเปลี่ยนจุดยืนด้านนโยบายการเงินที่เคยประกาศไว้ในช่วงต้นเดือนธ.ค.ว่า BSP จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดอย่างเพียงพอต่อไป ซึ่งตอกย้ำถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ แม้เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นแบบชะลอตัวก็ตาม
เรื่องที่ 3,565 นายคริส เคมป์ชินสกี ซีอีโอของแมคโดนัลด์เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ม.ค.) ว่า ธุรกิจหลายแห่งในตลาดตะวันออกกลางและบางแห่งนอกภูมิภาคกำลังเผชิญผลกระทบทางธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับแบรนด์แมคโดนัลด์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภูมิภาค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่ของชาติตะวันตกรวมถึง แมคโดนัลด์ และสตาร์บัคส์นั้นได้ตกเป็นเป้าหมายของการถูกคว่ำบาตรในระดับรากหญ้าเป็นวงกว้าง เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ถูกมองว่ามีจุดยืนสนับสนุนอิสราเอล และมีความสัมพันธ์ทางการเงินกับอิสราเอล นายเคมป์ชินสกีระบุว่า ข้อมูลอันเป็นเท็จที่เกี่ยวกับแบรนด์ต่าง ๆ เช่น แมคโดนัลด์นั้น เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังและไม่มีมูลความจริง
เรื่องที่ 3,566 บริษัทเมอส์ก (Maersk) ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่สัญชาติเดนมาร์กเปิดเผยในวันพฤหัสบดี (4 ม.ค.) ว่า เมอส์กได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือของเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 4 ลำจากทั้งหมด 5 ลำที่ติดอยู่ในทะเลแดง โดยสั่งให้หันหัวกลับคลองสุเอซเพื่อเดินทางอ้อมไปทางทวีปแอฟริกาแทนเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน
เมอส์กมีความพยายามที่จะกลับมาใช้เส้นทางทะเลแดงอีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังระงับไปในช่วงสั้น ๆ แต่ในวันอังคารที่ 2 ม.ค. เมอส์กระบุว่า จะให้เรือคอนเทนเนอร์หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางทะเลแดงอีกครั้ง โดยเส้นทางดังกล่าวใช้เพื่อเดินทางเข้าสู่คลองสุเอซเพื่อลดระยะการเดินทางระหว่างเอเชียและยุโรป
เรื่องที่ 3,567 ตลาดการเดินทางทางอากาศระหว่างประเทศของจีนจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานการบินพลเรือนจีน (CAAC) คาดว่า จำนวนเที่ยวบินรายสัปดาห์จะสูงถึงประมาณ 80% ของระดับก่อนโรคโควิด-19 ระบาดภายในสิ้นปี 2567
โดย CAAC ระบุว่า เที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศรายสัปดาห์อาจเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 เที่ยวบินภายในสิ้นปี 2567 จากปัจจุบันที่กว่า 4,600 เที่ยวบิน ขณะที่เมื่อช่วงต้นปี 2566 มีเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศน้อยกว่า 500 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่ง CAAC จะผลักดันให้เที่ยวบินตรงระหว่างจีนกับสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ CAAC ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ซึ่งทำขึ้นเมื่อเดือนพ.ย. 2566
โดยนพวัชร์