สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 6 ธ.ค. 66
สภาพอากาศวันนี้ : มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ในวันนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง
คาดการณ์ : ในช่วงวันที่ 6 –.11 ธ.ค. 66 ลมฝ่ายตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง
ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 5 ธ.ค. 66 น้อยกว่า ปี 65 จำนวน 4,136 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้
ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 63,617 ล้าน ลบ.ม. (77%)
ปริมาณน้ำใช้การ 39,412 ล้าน ลบ.ม. (68%)
การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำขนาดใหญ่
ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 8 แห่ง ภาคเหนือ : แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดนและบึงบอระเพ็ด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว
ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์ ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุด 3 แห่ง ภาคเหนือ: สิริกิติ์ ภาคกลาง : กระเสียว ภาคตะวันออก : คลองสียัด
โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1. วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด 2. ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ 3. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่
สถานการณ์อุทกภัย
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 จังหวัด (นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา) รวม 8 อำเภอ 60 ตำบล 393 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 52,807 ครัวเรือน ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
สทนช.ประกาศ ฉบับที่ 6/2566 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 3 – 8 ธ.ค. 66 ดังนี้
1. เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.ทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย) จ.ชุมพร (อ.สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และพะโต๊ะ) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พุนพิน เคียนซา พระแสง และดอนสัก) จ.ตรัง (อ.เมืองตรัง ห้วยยอด และวังวิเศษ) จ.พัทลุง (อ.เมืองพัทลุง และควนขนุน) จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองนครศรีธรรมราช ขนอม สิชล นบพิตำ ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา พระพรหม ปากพนัง ร่อนพิบูลย์ เฉลิมพระเกียรติ เชียรใหญ่ ชะอวด และหัวไทร) จ.สงขลา (อ.เมืองสงขลา กระแสสินธุ์ ระโนด สทิงพระ สิงหนคร ควนเนียง หาดใหญ่ นาหม่อม และบางกล่ำ) จ.ปัตตานี (อ.เมืองปัตตานี ปะนาเระ มายอ แม่ลาน ไม้แก่น ยะรัง ยะหริ่ง สายบุรี และหนองจิก) จ.ยะลา (อ.เมืองยะลา เบตง และรามัน) จ.นราธิวาส (อ.เมืองนราธิวาส เจาะไอร้อง ตากใบ บาเจาะ ยี่งอ ระแงะ รือเสาะ จะแนะ สุคิริน สุไหงโก-ลก และสุไหงปาดี)
2.เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก และเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ คลองบางสะพาน คลองชุมพร แม่น้ำหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองชะอวด คลองลำ คลองท่าแนะ แม่น้ำตรัง แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
การประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 66 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. ในช่วงวันที่ 7-9 ธ.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ฝนตกเพิ่มขึ้น และตกหนักในบางแห่ง
2. มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส
3. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ให้การช่วยเหลือในพื้นที่ประสบอุทกภัยพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง พร้อมรับมือสถานการณ์
4.กรมประชาสัมพันธ์ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เฝ้าระวังฝนตกในพื้นที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ในช่วงวันที่ 5 – 10 ธ.ค. 66
5. เขื่อนบางลางปรับแผนการระบายน้ำจาก 4 ล้าน ลบ.ม./วัน เป็น 6 ล้าน ลบ.ม./วัน ตั้งแต่วันที่ 5 – 8 ธ.ค. 66