ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 27-28 ก.ค. 2566
ขณะนี้ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
เรื่องที่ 2,585 ขณะนี้ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พานักอยู่ที่ฮ่องกงโดยมีบรรดาแกนนำและ ส.ส. พรรคเพื่อไทย จำนวนหนึ่ง บินไปพบเพื่ออวยพรวันเกิดครบรอบ 74 ปี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ทักษิณ มาฮ่องกงในครั้งนี้มีนัยยะสำคัญอยู่ 2 ประการ หนึ่งคือเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทย อย่างที่ประกาศไว้แล้วว่า จะกลับในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ลงเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง
อีกประการหนึ่ง ก็คือการนั่งบัญชาการเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย หลังจากที่พรรคก้าวไกล ส่งไม้ต่อให้กับพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างอยู่ในสายตาของทักษิณชินวัตร ทิ้งสิ้น
เวลานี้ต้องยอมรับว่าทักษิณ และพรรคเพื่อไทย มีอำนาจในการต่อรองสูง อย่างเช่นมีข่าวที่ปรากฏว่าธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางไปพบทักษิณ ชินวัตร ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ก็เพื่อหาทางออกให้พรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ไม่ถูกเขี่ยไปเป็นฝ่ายค้าน
จะเห็นว่าพลังของทักษิณในช่วงนี้มีมาก มีอำนาจต่อรองทั้งขั้วอำนาจเก่าและขั้วอำนาจใหม่ ไม่กลับช่วงนี้ จะกลับช่วงไหน
เรื่องที่ 2,586 ได้เห็นที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือกกพ. มีมติเห็นชอบเคาะค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.66 ออกมาแล้วว่าพวกเราประชาชนคนไทยทุกคนจะต้องจ่ายที่ 4.50 บาทต่อหน่วย หรือถูกลงจากงวดปัจจุบันเพียงแค่ 0.15 สตางค์ต่อหน่วย เพราะปัจจุบันพวกเราจ่ายกันอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย เห็นข่าวแล้วน้ำตาจะไหล เพราะเหมือนข่าวที่เคยปูทางมาตลาดว่าค่าไฟงวดสุดท้ายของปีจะถูกลงมลายหายไปกับตา
ที่ บก. ชวนคุยต้องบอกแบบนั้นก็เพราะว่า หากลดลงจากงวดปัจจุบันได้เท่านี้อย่าเรียกว่าลดลงจะดีกว่า เพราะแทบไม่เห็นค่าอะไรเลย โดยเป็นการเห็นชอบรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัต หรือค่าเอฟที (ค่า FT) และได้พิจารณากรณีศึกษาการปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ก.ย.–ธ.ค. 66 ซึ่งมีมติเห็นชอบค่าเอฟทีเรียกเก็บจำนวน 66.89 สตางค์ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ไหนว่าต้นทุนถูกลงไงล่ะขอรับเจ้านาย
และทันทีทันใดโดยไม่ต้องปล่อยให้เวลาเนิ่นนาน ทางฝั่งของเอกชนโดย “พี่ก้อง” อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท.ออกโรงโต้ทันทีว่าไม่เห็นด้วยกับค่าไฟ 4.50 บาทต่อหน่วยดังกล่าว เนื่องจากเอชนมองว่ามีปัจจัยบวกมากมายทั้งจากภายในและนอกประเทศ นอกจากนี้ กกพ.เองก็ดูเหมือนว่าจะไม่ตอบรับข้อเสนอจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือกกร.ที่นำเสนอไปเลย
นอกจากนี้พี่ก้องยังทิ้งท้ายไว้ได้อย่างเจ็บแสบ และน่าคิดไว้ด้วยว่า หากกลไกภายใต้รัฐบาลรักษาการณ์เป็นแบบนี้ คงต้องเป็นการบ้านเร่งด่วนของรัฐบาลใหม่ ที่ต้องเข้ามาปฏิรูปเชิงรุก แล้วคุณผู้อ่านละครับคิดเห็นว่าประการใด
เรื่องที่ 2,587 หลังจาก ครม.ไฟเขียว ให้เขตเมืองการบิน ในพื้นที่อีอีซี หรือเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดให้บริการโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงสถานบันเทิงได้ตลอด 24 ชั่วโมง บรรดานักลงทุนรวมถึงเจ้าของสถานบันเทิงในพัทยา ต่างก็ดีใจยกใหญ่ ลุ้น!! ไปกับอีอีซี จะได้เปิดขายเหล้า-เบียร์ ตลอด 24 ชั่วโมง ล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์พบ “จุฬา สุขมานพ” เลขาอีอีซี ตัวเป็นๆ พี่ เขา!! ยืนยันว่า เขตเมืองการบิน จะครอบคลุม อ.บ้านฉาง จังหวัดระยองเท่านั้นไม่นับรวมถึงพัทยา หรือลากยาวไปจนถึง จ.ระยอง นะครับ งานนี้ เรียกว่า ดับฝันไปเลยครับพี่น้อง!!
สรุปข่าวต่างประเทศ
เรื่องที่ 2,588 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า มาเลเซียจะเพิ่มสิทธิ์ฟรีวีซ่าให้กับชาวฮ่องกง โดยขยายเวลาพำนักในมาเลเซียจากเดิม 30 วัน เพิ่มเป็น 90 วัน หลังผู้นำฮ่องกงพยายามกระชับความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า มาเลเซียตกลงที่จะขยายเวลาพำนักในประเทศให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางฮ่องกงจากเดิม 30 วัน เป็น 90 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า และมาเลเซียอาจประกาศแผนการดังกล่าวเร็วที่สุดในวันนี้ (27 ก.ค.)
แหล่งข่าวระบุว่า ฮ่องกงเป็นฝ่ายติดต่อรัฐบาลมาเลเซียและยื่นคำขอดังกล่าว ก่อนที่นายจอห์น ลี ผู้บริหารเกาะฮ่องกงจะเดินทางเยือนมาเลเซียในวันนี้ ภายใต้ภารกิจเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
รายงานระบุว่า การเพิ่มเวลาพำนักให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางฮ่องกงของมาเลเซียมีขึ้น หลังจากฮ่องกงให้สิทธิ์ผู้หนังสือเดินทางมาเลเซียพำนักในฮ่องกงเป็นเวลา 90 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า
เรื่องที่ 2,589 บรรดาธุรกิจและโรงเรียนในภาคใต้ของไต้หวันปิดทำการเมื่อวันที่ 27 ก.ค. ขณะที่สายการบินต่าง ๆ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศหลายร้อยเที่ยว ท่ามกลางคำเตือนเกี่ยวกับภาวะดินถล่มและน้ำท่วม ขณะที่พายุไต้ฝุ่นทกซูรี (Doksuri) เคลื่อนตัวผ่านไต้หวันระหว่างทางไปยังจีน ซึ่งจะขึ้นฝั่งในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น พายุไต้ฝุ่นทกซูรีซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาของไต้หวันจัดให้เป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีความรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 กำลังเคลื่อนตัวผ่านช่องแคบไต้หวันทางตอนใต้ด้วยความเร็วลมสูงสุด 191 กม. (118 ไมล์) ต่อชั่วโมง
ก่อนหน้านี้ ไต้ฝุ่นทกซูรีทวีกำลังเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น แต่ได้สูญเสียกำลังบางส่วนไปหลังจากพัดถล่มทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์เมื่อวันพุธ (26 ก.ค.) ซึ่งสร้างความเสียหายแก่ริมฝั่งแม่น้ำ และผู้คนหลายพันคนไม่มีไฟฟ้าใช้ หน่วยงานด้านภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์รายงานว่า พบผู้เสียชีวิต 5 รายจากผลกระทบของพายุไต้ฝุ่นทกซูรี
กรมอุตุนิยมวิทยาของไต้หวันออกคำเตือนเกี่ยวกับกระแสลมแรงและฝนตกหนักในวันนี้สำหรับพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ รวมถึงเมืองท่าหลักอย่างเกาสง ซึ่งธุรกิจและโรงเรียนต่าง ๆ ได้ปิดทำการ พร้อมออกคำเตือนภาวะดินถล่มนอกจากนี้ เที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมดถูกระงับ มีประชาชนกว่า 4,000 คนถูกอพยพตามมาตรการป้องกันไว้ก่อน โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่บริเวณภูเขาทางตอนใต้และตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งมีปริมาณน้ำฝนเกือบ 0.7 เมตรในบางพื้นที่ และคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกสูงถึง 1 เมตรด้วย
เรื่องที่ 2,590 อ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) หน่วยงานวิจัยและให้คำปรึกษาของสหราชอาณาจักรระบุว่า การปิดโรงเรียนในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาด อาจนำไปสู่การสูญเสียการเติบโตทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับบางประเทศในเอเชีย ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย
ทั้งนี้ อ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์คาดการณ์ว่า ตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2578 แต่ละประเทศอาจสูญเสียผลิตภัณฑ์รวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยเฉลี่ย 0.3% – 0.8% ต่อปี เนื่องจากการปิดโรงเรียนในช่วงโควิด-19 ระบาด โดยประเทศเหล่านี้อาจสูญเสียจีดีพีรวมกันประมาณ 511,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า โรงเรียนทั่วโลกถูกบังคับให้ปิดทำการเมื่อโควิด-19 ระบาดใหญ่ในปี 2563 และนักเรียนต้องเปลี่ยนจากการเรียนแบบตัวต่อตัวในห้องเรียนเป็นการเรียนทางไกลผ่านระบบออนไลน์เป็นเวลาหลายเดือน
รายงานจากอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ปิดโรงเรียนทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นเวลาประมาณ 18 เดือนตั้งแต่เดือนก.พ.2563-มี.ค. 2565 ซึ่งนานกว่าประเทศอื่นๆ ที่กล่าวมา ด้วยเหตุนี้ ฟิลิปปินส์จึงมีโอกาสสูญเสียจีดีพี และการลงทุนสูงที่สุดระหว่างปี 2564 – 2578
ในทางตรงกันข้าม ประเทศไทยซึ่งมีระยะเวลาการปิดโรงเรียนสั้นที่สุดที่ 10 เดือน คาดว่าจะสูญเสีย จีดีพี และการลงทุนน้อยที่สุด
โดยนพวัชร์