บิ๊กตู่ ฝ่า 4 ด่าน นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี สมัย 3
วันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ด่านคูหาเลือกตั้ง คือ ด่านชี้ชะตา บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์จะได้ “ไปต่อ” หรือ “กลับบ้าน” ต้องผ่าน 4 ด่านหิน เพื่อเข้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3
ด่านแรก พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ต้องได้ ส.ส.ขั้นต่ำ 25 ที่นั่ง เพื่อมีสิทธิ์เสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ภาคใต้ “กระแสลุงตู่” ยังถูก “เลี้ยงกระแส” เห็นได้จากการเดินสายลงพื้นที่-เปิดเวทีปราศรัยของพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยมีส.ส.เก่าจากพรรคเก่า-แก่ มาโหนกระแสพล.อ.ประยุทธ์-ย้ายมาเป็นนั่งร้านพรรคทหาร
โดยคาด ส.ส.ภาคใต้ เป็นกอบเป็นกำ ชุมพร 1 ที่นั่ง เขต 3 สุพล จุลใส สุราษฏร์ธานี 1 ที่นั่ง เขต 3 วชิราภรณ์ กาญจนะ กระบี่ 1 ที่นั่ง เขต 2 สุชีน เอ่งฉ้วน นครศรีธรรมราช 3 ที่นั่ง เขต 2 สายัณห์ ยุติธรรม เขต 4 พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เขต 10 พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล
พัทลุง 1 ที่นั่ง เขต 2 นิติศักดิ์ ธรรมเพชร สงขลา 3 ที่นั่ง เขต 2 ศาสตรา ศรีปาน เขต 3 พยม พรหมเพชร เขต 4 อรุณ สวัสดี ปัตตานี 2 ที่นั่ง เขต 4 อริญชัย ซูสารอ เขต 5 ยุซรี ซูสารอ นราธิวาส 1 ที่นั่ง เขต 1 วัชระ ยาวอหะซัน
ภาคตะวันตก เพชรบุรี 1 ที่นั่ง เขต 2 สาธิต อุ๋ยตระกูล ภาคตะวันออก ชลบุรี 1 ที่นั่ง เขต 5 รณเทพ อนุวัฒน์ ระยอง 1 ที่นั่ง เขต 1 สมพงษ์ โสภณ จันทบุรี 2 ที่นั่ง เขต 1 ฐนภัทร กิตติวงศา เขต 2 จารึก ศรีอ่อน
ภาคกลาง ชัยนาท 1 ที่นั่ง เขต 1 อนุชา นาคาศัย ราชบุรี 2 ที่นั่ง เขต 1 กุลวดี นพอมรบดี เขต 4 อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมุทรสงคราม 1 ที่นั่ง เขต 1 รังสิมา รอดรัศมี สมุทรปราการ 1 ที่นั่ง เขต 7 ไพลิน เทียนสุวรรณ
นครสวรรค์ 2 ที่นั่ง เขต 3 สัญญา นิลสุพรรณ เขต 6 นิโรธ สุนทรเลขา นครปฐม 2 ที่นั่ง เขต 1 ณัทกร แก้วพิจิตร เขต 2 พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร สระบุรี 2 ที่นั่ง เขต 1 วราณธร อำนาคะ เขต 2 สมบัติ อำนาคะ
กทม. 2 ที่นั่ง เขต 14 ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ เขต 21 ประสิทธิ์ มะหะหมัด ภาคเหนือตอนล่าง พิจิตร 2 ที่นั่ง เขต 2 มาดามนิด ศรีบุศกร เขต 3 สุรชาติ ศรีบุศกร
ภาคเหนือ อุตรดิตถ์ 2 ที่นั่ง เขต 2 รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ เขต 3 ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ เชียงใหม่ 2 ที่นั่ง เขต 4 กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ เขต 5 เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อีสานเหนือ เลย 2 ที่นั่ง เขต 1 ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข เขต 2 เปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข
ด่านสอง พล.อ.ประยุทธ์ต้องได้ ส.ส.มากกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่พี่-น้อง 2 ป. เปิดอกคุยกันแล้วว่า ใครได้ ส.ส.มากกว่าก็ได้ “ไปต่อ” ใครได้น้อยกว่าต้อง “ยอมถอย”
พรรคพลังประชารัฐ-พล.อ.ประวิตร “กระแสพรรคแผ่ว” ลงไปเยอะ จากการสำรวจของสำนักโพลต่าง ๆ อยู่ในลำดับ “ตามหลัง” พรรครวมไทยสร้างชาติ-พล.อ.ประยุทธ์ แต่ผู้สมัคร ส.ส.เขตในพื้นที่ยังไว้ใจได้
พรรคพลังประชารัฐจึงมุ่งไปที่การลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อให้ ผู้สมัคร ส.ส.เขตดูมีราคาเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่คาดว่าจะได้เป็นชิ้นเป็นอันมากจาก “บ้านใหญ่” และก๊วนที่ยังเกาะกลุ่มอย่างเข้มแข็ง
จังหวัดพะเยา เขต 1 ธรรมนัส พรหมเผ่า เขต 3 จีรเดช ศรีวิราช แม่ฮ่องสอน เขต 1 ปกรณ์ จีนาคำ กำแพงเพชร เขต 1 ไผ่ ลิกค์ เขต 2 เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ เขต 3 อนันต์ ผลอำนวย เขต 4 ปริญญา ฤกษ์หร่าย
ตาก เขต 3 ภาคภูมิ บูลย์ประมุข พิจิตร เขต 1 พรชัย อินทร์สุข เพชรบูรณ์ เขต 1 พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ เขต 2 จักรัตน์ พั้วช่วย เขต 5 วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เขต 6 อัคร ทองใจสด
ราชบุรี เขต 2 บุญยิ่ง นิติกาญจนา สมุทรสาคร เขต 3 จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ นครศรีธรรมราช เขต 1 รงค์ บุญสวยขวัญ เขต 3 สัณหพจน์ สุขศรีเมือง
ภูเก็ต เขต 2 สุทา ประทีป ณ ถลาง เขต 3 นัทถี ถิ่นสาคู ปัตตานี เขต 5 อันวาร์ สาและ ยะลา เขต 1 อาดิลัน อาลีอัสเฮาะ นราธิวาส เขต 2 อามินทร์ มะยูโซ๊ะ เขต 3 สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ กทม.เขต 17 ศิริพงษ์ รัสมี เขต 18 พีระพงษ์ รัสมี
นนทบุรี เขต 2 จิรวรรณ เรี่ยวแรง สมุทรปราการ เขต 1 อัครวัฒน์ อัศวเหม เขต 2 ยงยุทธ สุวรรณบุตร เขต 3 ภริม พูลเจริญ เขต 4 วรพร อัศวเหม เขต 7 ต่อศักดิ์ อัศวเหม เขต 8 กรุงศรีวิไล สุทินเผือก
สระบุรี เขต 1 กัลยา รุ่งวิจิตรชัย สิงห์บุรี เขต 1 โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ฉะเชิงเทรา เขต 2 อรรถกร ศิริลัทธยากร ชลบุรี เขต 2 จองชัย วงศ์ทรายทอง เขต 3 เพิ่มพงศ์ วงศ์ทรายทอง เขต 9 กวินนาถ ตาคีย์ เขต 10 สะถิระ เผือกประพันธุ์
สระแก้ว เขต 1 ขวัญเรือน เทียนทอง เขต 2 ตรีนุช เทียนทอง เขต 3 สุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ ชัยภูมิ เขต 7 อัครแสนคีรี โล่วีระ ขอนแก่น เขต 7 สมศักดิ์ คุณเงิน เขต 10 บัลลังก์ อรรณนพพร
นครราชสีมา เขต 1 เกษม ศุภรานนท์ เขต 5 ทวิรัฐ รัตนเศรษฐ เขต 7 ทัศนียา รัตนเศรษฐ เขต 8 อรัชมน รัตนเศรษฐ เขต 9 ทัศนาพร เกษเมธีการุณ เขต 16 ตติรัฐ รัตนเศรษฐ
ด่านสาม พรรครวมไทยสร้างชาติต้องได้ ส.ส.มากกว่าพรรคร่วมรัฐบาล “ขั้วเดียวกัน” โดยเฉพาะต้องได้มากกว่าพรรคภูมิใจไทย หลังจาก เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประกาศ “ตอกเสาเข็ม” กวาดเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้ “สามหลัก”
โดยมี “อีสานใต้” เป็น “ฐานที่มั่น” บุรีรัมย์ 10 เขต สุรินทร์ 8 เขต ศรีสะเกษ 9 เขต อุบลราชธานี 11 เขต ตลอดจน “บ้านใหญ่” เช่น บ้านใหญ่ไทยเศรษฐ์ อุทัยธานี 2 เขต บ้านใหญ่ภัทรประสิทธิ์-ขจรประศาสน์ พิจิตร 3 เขต
นอกจากนี้ยังข้ามห้วย-กินแดนลงลึกไปถึงภาคใต้ “ล็อกเป้า” ทั้งสตูล พัทลุง ภูเก็ต รวมถึงจังหวัดอื่นในอีสานที่ย้ายค่าย-ขั้วเดิม นครราชสีมา เขต 12 สมศักดิ์ พันธ์เกษม เขต 16 สุชาติ ภิญโญ ชัยภูมิ เขต 3 สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์
ขอนแก่น เขต 2 วัฒนา ช่างเหลา เขต 4 เอกราช ช่างเหลา นนทบุรี เขต 1 เจริญ เรี่ยวแรง ร้อยเอ็ด เขต 6 คารม พลพรกลาง เชียงใหม่ เขต 9 ศรีนวล บุญลือ ปทุมธานี เขต 7 พรพิมล ธรรมสาร เชียงราย เขต 1 เอกภพ เพียรพิเศษ
นครสรรค์ เขต 2 วีระกร คำประกอบ ตาก เขต 1 ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ พิษณุโลก เขต 3 อนุชา น้อยวงศ์ กาญจนบุรี เขต 1 สมชาย วิษณุวงศ์ เขต 2 สมเกียรติ วอนเพียร เขต 4 ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ เขต 5 อัฏฐพล โพธิพิพิธ
ขณะเดียวกันหวัง “ปักธง” ส.ส.กทม. หลังจากได้ “ทีมบี” พุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ มาเป็น เจ้าพ่อกทม. เช่น เขต 2 พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ เขต 4 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา เขต 6 ภาดาท์ วรกานนท์ เขต 13 กษิดิ์เดช ชุติมันต์ เขต 33 จักรพันธ์ พรนิมิตร
ด่านที่สี่ ด่าน ส.ว.250 คน เพราะทั้ง 3 ด่านจะเดินมาถึงด่านที่สี่ไม่ได้เลย ถ้าหาก ส.ว.250 คน ไม่ยอมรับ “เงื่อนไข-ข้อตกลง” ที่จะต้อง “ตัดหาง” ป.ใด ป.หนึ่ง เพื่อ “ถือหาง” เพียง 1 ป. เข้าสู่สภา-ขึ้นเวทีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
ส.ว.สายพล.อ.ประยุทธ์ มีเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่นที่ 12 เป็นกำลังหลัก เช่น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ พล.อ.จิระศักดิ์ ชมประสพ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา
ส.ว.สายพล.อ.ประวิตร มีเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร รุ่นที่ 6 เป็นขุนพล เช่น พล.อ.นพดล อินทปัญญา พล.อ.อู้ด เบื้องบน พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ พล.อ.เลิศฤทธิ์ เวชสวรรค์ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ
โดยเฉพาะ บิ๊กกี่ พล.อ.นพดล เพื่อนเลิฟ พล.อ.ประวิตร ที่มี “เจ๊อร” ประวีณ์นุช อินทปัญญา ภรรยา เป็นผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชี ลำดับที่ 22 พรรคเพื่อไทย เป็น “ข้อต่อ” สำคัญในการพยุงพล.อ.ประวิตร แหกทุกด่าน นั่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
พล.อ.ประยุทธ์ จะฝ่าได้ครบทุกด่านหรือไม่ อีก 7 วัน โปรดติดตามด้วยใจระทึก