นอเทรอดามจัดพิธีมิสซาครั้งแรกหลังไฟไหม้
ซีเอ็นเอ็น – เมื่อค่ำของวันที่ 15 มิ.ย. มีการจัดพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ ที่มหาวิหารนอเทรอดาม ณ กรุงปารีส ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ในเดือน เม.ย. จนทำให้โครงสร้างส่วนยอดแหลม หลังคาบางส่วน และส่วนคานโค้งเสียหาย
ด้านอาร์คบิชอปของปารีสระบุว่า พิธีมิสซาในครั้งนี้มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วม เนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัย โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมดเพียงแค่ 30 รายเท่านั้น
พิธีมิสซาจัดขึ้นด้านในโบสถ์ด้านข้างที่ไม่ได้รับความเสียหายใด ๆ จากเหตุเพลิงไหม้ และได้มีการขอให้ผู้เข้าร่วมทุกรายสวมหมวกนิรภัยเพื่อป้องกัน
มิเชล โอเปอตี อาร์คบิชอปของปารีสและผู้นำพิธีมิสซา ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า “การที่เราได้ร่วมประกอบพิธีมิสซา ณ มหาวิหารแห่งนี้ เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย”
เขาเสริมว่า “พิธีนี้ถือเป็นข้อความแห่งความหมายและความขอบคุณจากผู้ที่เคยรู้สึกสะเทือนใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับมหาวิหาร” โดยเขาระบุว่า “รู้สึกแปลกเล็กน้อย” ที่ต้องประกอบพิธีพร้อมกับสวมหมวกนิรภัยไปด้วย
แฟรงค์ ริเอสเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของฝรั่งเศส ออกเตือนเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ว่า โครงสร้างของมหาวิหารยังไม่มั่นคง โดยเฉพาะส่วนอย่างคานโค้งที่ยังไม่ได้รับการกอบกู้และอาจถล่มลงมาได้
ริเอสเตอร์ให้สัมภาษณ์กับช่อง France 2 ว่า “เราจำเป็นต้องติดตั้งกระดานปูพื้น ทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อที่จะเอาเศษหินซึ่งอยู่ด้านบนของคานโค้งออก และดูว่าโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กของคานโค้งเป็นอย่างไรบ้าง”
อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า การประกอบพิธีมิสซาถือเป็น “สัญลักษณ์แห่งความหวังที่สวยงาม” และแสดงให้เห็นถึงอีกก้าวสู่เป้าหมายสูงสุดในการเปิดมหาวิหารอีกครั้ง “เพื่อนักท่องเที่ยวที่ศรัทธาและนักท่องเที่ยวในอนาคต”
เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมระบุว่า ได้รับเงินสำหรับการปรับปรุงเพื่อฟื้นฟูมหาวิหารเพียงแค่ 80 ล้านยูโร หรือราว 2,814 ล้านบาท จากที่เคยมีผู้ให้สัญญาว่าจะบริจาคเงินถึง 850 ล้านยูโร หรือ 29,920 ล้านบาท
ทางริเอสเตอร์ระบุว่า “มีผู้คนมากมายสัญญาว่าจะบริจาคเงินให้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ เป็นเรื่องปกติ เราจะยังคงรับบริจาคต่อไปพร้อมกับการซ่อมแซมมหาวิหาร”
เขาเสริมอีกว่า เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสตั้งเป้าหมายในการซ่อมแซมมหาวิหารไว้ 5 ปี ซึ่งถือว่าถูกต้อง แต่คุณภาพสำคัญกว่าความรวดเร็ว
ในหมู่ผู้ที่ให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงินช่วยเหลือการซ่อมแซม มีทั้งฟรองซัว อองรี ปีโนลด์ ผู้บริหารองค์ Kering เจ้าของแบรนด์หรูอย่าง กุชชี่ และอีฟซองลอแรง โดยเขาสัญญาว่าจะบริจาคเงินถึง 100 ล้านยูโร หรือ 3,518 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี แบร์นารด์ อาร์โนลด์ ผู้บริหารเครือ LMVH เจ้าของแบรนด์ หลุยวิตตอง และดิออร์ ก็สัญญาว่าจะมอบเงิน 200 ล้านยูโร หรือ 7,038 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับมูลนิธิเบตตองกูร์ ชูลเลอร์ ที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักร L’oreal
โดยปัจจุบัน องค์กรเหล่านี้ยังไม่ได้ส่งเงินเข้าไปในโครงการฟื้นฟูมหาวิหารนอเทรอดามแต่อย่างใด.