ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้าจีนใหม่ คุยการค้าเครียดขึ้น
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่มแรงกดดันในการเจรจาการค้ากับจีนมากขึ้น ด้วยการประกาศขึ้นภาษีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้านำเข้าจากจีนในสัปดาห์นี้ และตั้งเป้าจะเก็บเพิ่มอีกหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเร็วๆนี้
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยสื่อวอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อคืนวันที่ 5 พ.ค.ว่า จีนกำลังพิจารณายกเลิกการเจรจาการค้าในสัปดาห์นี้ที่กรุงวอชิงตันจากคำประกาศขึ้นภาษีจากประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนหน้านี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้แทนการค้าประมาณ 100 คนที่จะเดินทางมาเจรจาพร้อมกับรองนายกรัฐมนตรีหลิวเหอของจีน
อย่างไรก็ตาม ทางสหรัฐฯยังไม่ทราบว่าจีนจะเข้าร่วมในการเจรจาหรือไม่และสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯยังไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีนก็ยังไม่ได้ให้ความเห็นในประเด็นนี้เช่นกัน
ทั้งที่สตีเวน มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าการเจรจาการค้าที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์ที่แล้วมี “ประสิทธิผล” และโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ระบุว่าจีนยอมอ่อนข้อให้มากกว่าที่เคย แต่ทรัมป์กลับตัดสินใจตรงกันข้ามและโพสต์บนทวิตเตอร์ว่า
“ การเจรจาการค้ากับจีนยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่ช้าเกินไป เพราะพยายามจะประนีประนอมกันใหม่ ไม่ ! ” ทรัมป์ทวีตบนทวิตเตอร์ ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วน ตลาดหุ้นล่วงหน้าสหรัฐฯ ดิ่งลงกว่า 2% และดัชนีหลักของตลาดหุ้นจีนดิ่งฮวบกว่า 4%
โดยทรัมป์ระบุว่า ภาษีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในวันที่ 10 พ.ค. จากเดิม 10% ถือเป็นการกลับลำการตัดสินใจของเขาในเดือนก.พ.ที่จะคงอัตราภาษีเดิม 10% ไว้ หลังจากการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความก้าวหน้าขึ้น
ทรัมป์ยังระบุว่า เขาตั้งเป้าจะเก็บภาษี 325,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้านำเข้าจากจีนด้วยอัตรา 25% “โดยเร็ว” ทางทำเนียบขาวชี้แจงเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ว่า ทรัมป์ต้องการให้ภาษีบางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด ที่มีกับจีนมีผลเร่งให้จีนทำข้อผูกพันโดยเร็ว
ขณะที่แลร์รี คัดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวกล่าวให้สัมภาษณ์กับช่องฟ็อกซ์นิวส์ว่า ทวีตของท่านประธานาธิบดีเป็นการเตือนจีน
“ผมคิดว่า ท่านประธานาธิบดีกำลังเตือนว่า ทางเรายอมอ่อนข้อให้มากกว่าที่เคย เราระงับภาษี 25% เหลือ 10% และเราก็คงไว้อย่างนั้น ซึ่งจะไม่คงอยู่ตลอดไปหากการเจรจาไม่ได้ผล”
ในสัปดาห์ก่อน แหล่งข่าวอุตสาหกรรมระบุว่า พวกเขาเชื่อว่าการเจรจาการค้าจะจบลงด้วยดี แต่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ระบุว่า ยังมีอุปสรรคสำคัญในการเจรจาอีกมาก
อัตราภาษีที่ปรับขึ้นในวันที่ 10 พ.ค.จะเป็นความเคลื่อนไหวครั้งแรก หลังจากทรัมป์ขึ้นภาษี 10% มูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว เพิ่มเติมจากภาษี 25% มูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบแรกเมื่อปีที่แล้ว
การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการภาษีเป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญระหว่างทั้งสองฝ่าย โดยจีนต้องการให้ยกเลิกภาษีทั้งหมด ขณะที่สหรัฐฯเชื่อว่า ควรจะต้องมีอยู่บ้างเพื่อให้มีการบรรลุข้อตกลงในที่สุด.