สรุปข่าวประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (29 พ.ย. ) เพิ่มขึ้น 3.07 จุด(0.0091%)ปิดที่ 33,852.53 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.31 จุด (0.16%)ปิดที่ 3,957.63 จุด หุ้นแนสแดด ลดลง 84.30 จุด (0.73%)ปิดที่ 11,503.45 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดตลาด(29 พ.ย.) ที่ระดับ 1,624.39 จุด เพิ่มขึ้น 7.48 จุด (0.46%) มูลค่าการซื้อขาย 57,772.37 ล้านบาท
น้ำมันโลก-ไทย :สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนม.ค. บวก 96 เซนต์ ปิดที่ 78.20 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 83.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
PTT Station แจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 0.40 บาท/ลิตร เว้น E20 และ E85 ลดลง 0.60 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 30 พ.ย. 2565 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 42.16, GSH95 = 34.75, E20 = 33.04, GSH91 = 34.48, E85 = 32.24, พรีเมี่ยม GSH95 = 40.24, HSD-B7 = 34.94, HSD-B10 = 34.94, HSD-B20 = 34.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 43.66 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
บางจากฯ ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด -40 สต. ยกเว้น E85,E20 -60 สต. สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มดีเซลราคาคงเดิม
BCP Retail Price : GSH95S EVO 34.75 / GSH91S EVO 34.48 / GSH E20S EVO 33.04 / GSH E85S EVO 32.24 / Hi Diesel B20S 34.94 / Hi Diesel S 34.94 / Hi Diesel S B7 34.94 / Hi Premium Diesel S B7 43.66 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.)
ทองคำลง 200 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,400.00 ขายออกบาทละ 29,500.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 28,864.64 ขายออกบาทละ 30,000.00 บาท ราคาทองคำลง 200 บ. เมื่อเทียบกับวันที่ 28 พ.ย.
เงินบาทแข็งค่าขึ้น : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ ( 29 พ.ย.) แข็งค่าขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 35.634 บ บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 35.8294 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ 43.2047 บาทต่อ 1 ปอนด์, 37.3269 บาทต่อ 1 ยูโร , 26.0858 บาท ต่อ 100 เยน, 4.6112 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 26.2179 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 8.0271 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
เก็บภาษีขายหุ้น :
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังในเรื่องการจัดเก็บภาษีขายหุ้น โดยให้ยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บภาษีขายหุ้น โดยเมื่อมีการยกเลิกแล้วในด้านอัตราการเก็บภาษี ซึ่งจะดำเนินการให้ไม่เกินตามที่กฎหมายกำหนดไว้ที่อัตรา 0.10% โดยการจัดเก็บภาษีขายหุ้นครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ
เคาะเงินเยียวยาน้ำท่วม :
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2565 พร้อมอนุมัติกรอบวงเงิน 6,258.54 ล้านบาท สำหรับจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 1,046,460 ครัวเรือน ดังนี้ (1) กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 1วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท(2) กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 7,000 บาท (3) กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 60 วัน ขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท
กรมชลเริ่มจ้างงาน :
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน จ้างงานโครงการส่งเสริมการดำเนินงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อสร้างแหล่งน้ำ และระบบส่งน้ำเพื่อชุมชน/ชนบท แก้มลิง การจัดการคุณภาพน้ำ และโครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ เพื่อเสริมสร้างรายได้ทดแทนและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วประเทศ โดยในปี 2566 นี้ มีแผนจัดจ้างแรงงานทั้งสิ้น 86,000 คน วงเงินงบประมาณ 5,336 ล้านบาท ระยะเวลาการจ้างแรงงานอยู่ระหว่าง 3-10 เดือน วงเงินจ้างแรงงานจะอยู่ที่ประมาณ 26,100-87,000 บาท (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ้าง/คน) ปัจจุบันกรมชลประทานได้เริ่มจ้างแรงงานแล้ว 3,459 คน
ธนาธร ชงปลดล็อกท้องถิ่น :
คณะก้าวหน้า นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แถลงข่าวเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น หลังถูกบรรจุสู่วาระในการประชุมสภา วันที่ 29 – 30 พ.ย. นี้ โดยใจความหลัก ๆ 1.จัดสรรภาษีให้เป็นธรรม 2. ให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มที่ในการดูแลบริการสาธารณะของตัวเอง ออกแบบพื้นที่ตัวเองอย่างเต็มที่ 3.จัดทำประชามติ แลกเปลี่ยนถกเถียงกัน หาฉันทามติร่วมกัน หากลดบทบาท และสถานะของราชการจะเป็นอย่างไร ราชการส่วนภูมิภาคยังจำเป็นอยู่ไหม จะได้ยุบรวมกัน และนำงบมาพัฒนาพื้นที่นั้น ๆ