หุ้นบริษัทไฮเทคยังดิ่งเหว
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างแรง เป็นผลจากหุ้นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ปรับลดลง โดยหุ้นเฟซบุ๊กและแอปเปิลขาดทุนมากที่สุด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงถึง 395.78 จุดลงมาอยู่ที่ 25,017.44 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับลดลงมา 1.7% อยู่ที่ 2,690.73 จุด
หุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม ‘FAANG’ ซึ่งประกอบด้วย Facebook, Amazon, Apple, Netflix และ Google ตอนนี้ล้วนอยู่ในแดนลบ โดยหุ้นของแต่ละบริษัทร่วงลงมากว่า 20% เมื่อเทียบกับที่เคยพุ่งสูงอยู่นานถึง 52 สัปดาห์
“ นี่ต้องการการฟื้นตัวของบริษัทไฮเทค เพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น” Greg Luken ซีอีโอจาก Luken Investment Analytics ให้ความเห็น
“ผมคิดว่าเราจะเห็นการผันผวนถึงสิ้นปี ผมคิดว่าหุ้นที่ร่วงจะเจอแรงกดดันให้ขายมากขึ้นอีก”
หุ้นของแอปเปิลร่วงนำมาก่อนหลังวอลสตรีทเจอร์นัลรายงานว่า บริษัทลดการผลิตตามคำสั่งซื้อสำหรับไอโฟนใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปีนี้ โดยหุ้นแอปเปิลร่วงลงเกือบ 4% และร่วงต่อลงมาอยู่ในแดนลบ คือร่วงถึง 20% จากที่เคยพุ่งติดลมบนนาน 52 สัปดาห์
ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กร่วง 5.7% เนื่องจากภาพลักษณ์บริษัทมัวหมองลงในสายตาสาธารณชน เพราะบริษัทไม่สามารถจัดการการแทรกแซงการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2559 และกำจัดอิทธิพลของต่างชาติบนแพลตฟอร์ม โดยรายงานของ WSJ ระบุว่า ซีอีโอ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กล่าวโทษซีโอโอ เชอรีล แซนด์เบิร์กกับการที่บริษัทรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ไม่ดีพอ รายงานนี้มีขึ้นหลังการตอบโต้จาก
บทความในนิวยอร์กไทม์ที่ให้รายละเอียดว่า เฟซบุ๊กเพิกเฉยละเลยอย่างไร และยังพยายามปิดบังว่ารัสเซียใช้แพลตฟอร์มเฟซบุ๊กเพื่อขัดขวางการเลือกตั้งสหรัฐฯในปี 2559
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงต่อหลังไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า ทางการจีนพบหลักฐานสำคัญของการละเมิดกฎหมายการต่อต้านการผูกขาดโดยซัมซุง SK Hynix และ Micron Technology ในรายงานยังระบุว่า จีนจะสอบสวนอย่างเข้มข้นกับ 3 บริษัทนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตเมมโมรีชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก
โดยหุ้น Micron ร่วง 6.6% ขณะที่ Advanced Micro Devices หล่นฮวบ 7.5% หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ดิ่ง 5.5% และหุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลก็ปรับลดลง 3.8%
หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีมีผลประกอบการดีที่สุดในดัชนี S&P 500 ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ หุ้นบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้ดิ่งลงมากว่า 10% จากที่เคยพุ่งทะยานนานถึง 52 สัปดาห์
หุ้นปรับลดลงหลังรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์กล่าวในการประชุมเอเปกที่ปาปัว นิวกินีเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ว่า สหรัฐฯจะไม่ยกเลิกมาตรการภาษี 2.5 แสนล้านดอลลาร์กับสินค้าจีนหากจีนไม่เปลี่ยนแปลงวิธีการทางการค้าตามที่สหรัฐฯ เรียกร้อง.