เกาหลีใต้ปัดไม่ให้สถานะผู้ลี้ภัยชาวเยเมน
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ทางการเกาหลีใต้ปฏิเสธการมอบสถานะผู้ลี้ภัยให้กับชาวเยเมนกว่า 400 ราย หลังจากที่ชาวเยเมนจำนวนมากได้เดินทางมายังเกาะเจจูเมื่อหลายเดือนก่อน จนทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจจากประชาชน
ประเทศเกาหลีใต้ที่มีความภูมิใจในเชื้อชาติที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน มอบสถานะผู้ลี้ภัยให้ชาวเยเมนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าเกาหลีใต้จะเคยถูกโจมตีโดยสงครามในอดีตจนหลงเหลือแต่เพียงความทรงจำในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกาหลีใต้รู้สึกเห็นอกเห็นใจชาวเยเมนที่อพยพหนีภัยสงครามมากขึ้น
ประชาชนกว่า 500 ราย จากประเทศเยเมนที่สถานการณ์ย่ำแย่ท่ามกลางความขัดแย้งเดินทางมายังเกาะเจจูเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยใช้สิทธิประโยชน์จากการที่สามารถเข้าสู่ประเทศเกาหลีใต้ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้วีซา เนื่องจากเป็นการโปรโมทการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้
การเดินทางมายังเกาะเจจูของชาวเยเมนเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดประเด็นการต่อต้านผู้อพยพในประเทศเกาหลีใต้ ประเทศที่มีจำนวนผู้อยู่อาศัยเป็นชาวต่างชาติเพียงแค่ 4% โดยส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างพลเมืองกับแรงงานผู้อพยพอย่างกว้างขวาง
ฝ่ายผู้ต่อต้านอ้างถึงการที่ชาวเยเมนนับถือศาสนาอิสลาม และมีผู้คนกว่า 700,000 ราย ตามที่บันทึกไว้ ได้ลงชื่อในคำร้องบนเว็บไซต์ของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยเร่งให้จัดการกับกฎหมายผู้อพยพที่เรียกว่ารุนแรงที่สุดในโลกให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
กฎการยกเว้นวีซาในเกาะเจจูถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เพื่อกีดกันชาวเยเมน โดยมีชาวเยเมนทั้งหมด 481 ราย ที่ยื่นขอร้องลี้ภัยอย่างเป็นทางการ
ทางกระทรวงยุติธรรมระบุว่า จากจำนวนผู้ยื่นขอร้องทั้งหมด มีผู้ถูกปฏิเสธทันที 34 ราย และอีก 339 ราย ได้รับใบอนุญาตให้อยู่อาศัยเพื่อเหตุผลด้านมนุษยธรรม ทำให้สามารถพำนักในประเทศเกาหลีได้เป็นเวลา 1 ปี สำหรับผู้ที่ถูกปฏิเสธในทันทีจะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้
มีชาวเยเมนอีก 85 ราย ที่ถูกตัดสินด้วยการอนุโลม ในเดือนก่อน ชาวเยเมน 23 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นครอบครัวที่มีเด็ก หรือภรรยากำลังตั้งครรภ์ ได้รับอนุญาตให้พำนักในประเทศเกาหลีใต้ได้ แต่จำเป็นต้องทำใบอนุญาตใหม่ทุก 12 เดือน และอาจถูกปฏิเสธได้หากสถานการณ์ด้านความปลอดภัยในประเทศเยเมนนั้นมีท่าทีที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดได้รับสถานะผู้ลี้ภัยอย่างสมบูรณ์
นับตั้งแต่ปี 2537 จนถึงตอนนี้ ประเทศเกาหลีใต้ได้ทำการอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยเพียง 4.1% จากทั้งหมด ส่วนกฎหมายผู้ลี้ภัยไม่ได้นำมาบังคับใช้กับชาวเกาหลีเหนือซึ่งจะถือเป็นประชาชนชาวเกาหลีใต้โดยอัตโนมัติ
สำหรับโพลล์ความคิดเห็นล่าสุด แสดงให้เห็นว่า ชาวเกาหลีใต้กว่าครึ่งไม่เห็นด้วยต่อการรับผู้อพยพชาวเยเมนที่กำลังมองหาที่ลี้ภัย โดยอีก 39% ระบุว่าให้การสนับสนุน ส่วนอีก 12% ไม่ออกความเห็น.