นักบินรบหญิงคนแรกของญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นแต่งตั้งนักบินรบหญิงคนแรก นับเป็นความสำเร็จล่าสุดในระดับชาติสำหรับความเท่าเทียมทางเพศครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศที่มีประเพณีดั้งเดิมให้ผู้ชายเป็นใหญ่
เรืออากาศโทหญิงมิสะ มัตสึชิมะ วัย 26 ปี เข้าร่วมกับกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น ( JASDF) หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัยป้องกันประเทศญี่ปุ่นในปี 2557 เธอกลายเป็นหนึ่งในทหารหญิงจำนวน 13,707 นาย ซึ่งคิดเป็นเพียง 6.1% ของกองกำลังทหารญี่ปุ่นทั้งหมด เธอจบการฝึกอบรมในสัปดาห์นี้ และได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการให้เป็นนักบินรบหญิงในพิธีเมื่อวันที่ 24 ส.ค.JASDF ระบุในการแถลงข่าว
“ ตั้งแต่ฉันดูหนังเรื่อง Top Gun ตอนอยู่ชั้นประถม ฉันก็อยากเป็นนักบินรบมาตลอด” มัตสึชิมะกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 23 ส.ค.
“ในฐานะนักบินรบหญิงคนแรก ฉันจะเป็นคนเปิดทางให้ จะทุ่มเททำงานหนักเพื่อให้สมกับความคาดหวังของผู้คน และแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกสำนึกในบุญคุณของคนที่สนับสนุนฉันมาตลอด ฉันอยากเป็นนักบินเต็มตัว ที่ไม่แตกต่างจากผู้ชาย ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ ฉันหวังที่จะเป็นคนซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นอีกมากให้อยากเป็นนักบิน” เธอเสริม
มัตสึชิมะ ซึ่งมาจากเมืองโยโกฮามา ทางตะวันออกของญี่ปุ่น ได้รับใบอนุญาตบินในปี 2558 ก่อนที่จะเลือกฝึกต่อด้านนักบินรบ ปัจจุบัน เธอประจำที่ฐานทัพอากาศ Nyutabaru และเริ่มเป็นนักบินกับเครื่องบินรบ F-15J
โดยเครื่องบินรบ F-15J เป็นเครื่องบินรบ 2 เครื่องยนต์ที่ออกแบบมาให้ทำการรบบนอากาศกับเครื่องบินอื่น มีเรดาร์ 8 ตัวและจรวดอินฟราเรดทำความเร็วสูงสุด Mach 2.5 คือเร็วกว่าเสียง 2.5 เท่า
“ นักบินรบหญิงคนแรกของกองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว” JASDF ระบุในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 23 ส.ค.
ทั้งนี้ JASDF ไม่ยอมรับผู้หญิงจนกระทั่งปี 2536 เมื่อมีตำแหน่งเปิดกว้างให้ผู้สมัครผู้หญิง อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นบินเครื่องบินรบและเครื่องบินลาดตระเวนสอดแนม จนกระทั่งมีการยกเลิกคำสั่งห้ามในปี 2558 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มของรัฐบาลที่จะเพิ่มจำนวนผู้หญิงในกำลังแรงงานของประเทศ อ้างอิงจากแถลงการณ์ของ JASDF
ผู้หญิงญี่ปุ่นถูกจำกัดให้ทำหน้าที่ดูแลบ้าน หรือที่เรียกกันว่า ‘งานของแม่’ มานาน อย่างไรก็ตาม จากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็วและกำลังแรงงานหดตัว นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะให้คำมั่นในปี 2556 ที่จะส่งเสริมให้มีผู้หญิงทำงานมากขึ้นในญี่ปุ่น
นโยบายเชิดชูผู้หญิงได้แผ่ขยายมาถึงกองทัพด้วย โดยรมว.กระทรวงกลาโหมได้ริเริ่มดำเนินดำเนินการเมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนผู้หญิงในกองกำลังป้องกันตนเองให้ถึง 9% ภายในปี 2573 เทียบกับกองทัพสหรัฐฯ ที่มีจำนวนผู้หญิงอยู่ถึง 16% อ้างอิงจากสำนักคิด Council on Foreign Relations (CFR)
ปัจจุบัน ผู้หญิงในกองทัพเริ่มได้รับการส่งเสริมมากขึ้นหลังจากมีตำแหน่งจำกัดในกองกำลังป้องกันตนเองทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศมานาน โดยในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นได้แต่งตั้งผู้บัญชาการหมวดเรือคุ้มกันหญิงคนแรก อ้างอิงจากการรายงานของสื่อท้องถิ่น.