เกษตรกรไต้หวันขายผลไม้ช่วยเหยื่อน้ำท่วมญี่ปุ่น
กลุ่มเกษตรกรไต้หวันจัดงานขายผลไม้แก้วมังกรช่วงสุดสัปดาห์เป็นเวลา 2 วันที่กรุงไทเป เพื่อเป็นการระดมทุนช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มทางตะวันตกของญี่ปุ่น
หลินติงไช่ วัย 65 ปี ระบุว่า เขาเก็บแก้วมังกรได้ถึง 1,380 ก.ก.จากสวนของเขาในยี่หลาน ทางตะวันออกของไต้หวัน และตัดสินใจที่จะขายเพื่อบริจาคเงินช่วยเหลือ โดยเขาบอกว่า เงินบริจาคของเขามาจากการขายแก้วมังกรได้ 900 ก.ก.ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวครั้งแรกของเขาจากทั้งหมด 4 ครั้งในปีนี้ เพื่อส่งไปให้เหยื่อจากอุทกภัยในญี่ปุ่น
เขาประเมินว่า ยอดขายจากสองวันนี้น่าจะอยู่ที่ 100,000 – 120,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 110,00 – 132,000 บาท)
หลินเป็นเกษตรกรที่เริ่มปลูกแก้วมังกรออร์แกนิกตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน และเขาชนะรางวัลที่ 3 จากการประกวดคุณภาพผลไม้ของยี่หลานในปีนี้
เขาเล่าว่า ในช่วงที่เขาปลูกลูกพีช แอปเปิล และลูกแพร์ทางตอนกลางของไต้หวัน เขาแทบหมดตัวจากพายุไต้ฝุ่น ความรู้สึกสูญเสียทำให้เขาเข้าใจและรู้สึกอยากช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาส
หูจงอิม รมว.เกษตรและอาหารคนใหม่ของไต้หวันเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดงานตลาดผลไม้ให้ เขากล่าวว่าเขาตัดสินใจช่วยหลังจากได้ยินเพื่อนเก่าพูดถึงหลินที่ต้องการระดมทุนช่วยเหลือเหยื่อน้ำท่วมในญี่ปุ่น
“ ญี่ปุ่นเป็นเพื่อนบ้านของเรา เราช่วยเหลือซึ่งกันและกันเวลามีภัยพิบัติ ” เขากล่าว โดยอ้างถึงเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นเคยช่วยเหลือไต้หวันในเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันที่ 21 ก.ย.ปี 2542 แผ่นดินไหวเมื่อเดือนก.พ.ปี 2559 และอีกครั้งเมื่อเดือนก.พ.ปีนี้
“ ผมหวังว่า ยอดขายของสองวันนี้ จะช่วยให้ความเป็นเพื่อนระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ” หูกล่าว
มิตซูฮิโร โยโกตะ รองหัวหน้าผู้แทนของสมาคมแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น -ไต้หวัน ซึ่งปฏิบัติภารกิจทางการทูตอย่างไม่เป็นทางการในไต้หวันระบุว่า เขารู้สึกซาบซึ้งกับท่าทีของไต้หวัน ตั้งแต่แรกเลยคือประธานาธิบดีไช่อิงเหวินที่ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ ต่อมาก็เป็นการบริจาคเงินช่วยเหลือจากกระทรวงต่างประเทศไต้หวันและยอดขายผลไม้แก้วมังกร
โดยสัปดาห์นี้ มีผู้คนที่ทราบข่าวมาช่วยอุดหนุนซื้อที่ตลาดที่หลินขายอยู่จำนวนมาก หลายคนต่อคิวยาวเหยียดเพื่อชิมน้ำผลไม้ สมูธตี้ และไอศกรีมแท่งที่ทำจากแก้วมังกร
หนึ่งในบรรดานักช้อปเป็นชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ทำงานในไต้หวันมานานถึง 6 ปีแล้ว เขาไม่ขอเปิดเผยชื่อ และเล่าว่า เขารู้สึกซาบซึ้งใจกับความรักที่ชาวไต้หวันมีต่อญี่ปุ่น
“ ทำให้ผมต้องกลับมาสำรวจตัวเองว่า ผมรักประเทศของผมได้เท่ากับพวกเขาหรือเปล่า ” เขากล่าวพลางเช็ดน้ำตา
เขากล่าวว่า เขาอยากเห็นญี่ปุ่นและไต้หวันสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตและอยากให้ทั้งสองประเทศไม่ละความพยายาม.