ทรัมป์ชมประชุมกับปูตินเริ่มต้นดี
หลังจากการประะชุมล่าช้าเกือบหนึ่งชั่วโมง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียได้พบกันในกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินแลนด์เมื่อวันที่ 16 ก.ค.เพื่อพูดคุยกันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก
หลังออกจากการประชุม ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า การพูดคุยเริ่มต้นได้ดีสำหรับทุกคน โดยการประชุมของผู้นำทั้งสองใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง นานกว่า 90 นาทีตามหมายกำหนดการเดิม
เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ทำนายก่อนการประชุมว่า เขาและประธานาธิบดีปูตินจะมีความสัมพันธ์ที่พิเศษสุด และเขาเฝ้ารอคอยที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกัน
“ เราคุยกันทุกอย่างตั้งแต่เรื่องการค้า ไปจนถึงเรื่องทางกองทัพ ทั้งขีปนาวุธ ทั้งนิวเคลียร์ เรื่อยไปจนถึงเรื่องจีน ” ทรัมป์กล่าวโดยเรียกประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนว่าเป็นเพื่อนของทั้งสองประเทศ โดยทรัมป์เสริมว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับมอสโก “ ผมคิดว่า เรามีโอกาสที่ดีร่วมกัน เพราะพูดตรงๆว่า ทั้งสองประเทศเข้ากันไม่ค่อยได้มานานหลายปีแล้ว ผมคิดจริงๆ ว่าโลกอยากเห็นเราเข้ากันได้ดี”
ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า เพราะสหรัฐฯและรัสเซียเป็นประเทศมหาอำนาจด้านนิวเคลียร์ จึงมีการพูดคุยกันเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ “ เรามีนิวเคลียร์มากถึง 90% และมันไม่ใช่เรื่องดี มันแย่ และผมหวังว่าเราจะสามารถทำอะไรบางอย่างในเรื่องนี้ได้ ”
“ ถ้าเราทำอะไรเพื่อลดจำนวนลงได้ ผมฝันอยากจะกำจัดมันให้หมด บางทีอาจเป็นแค่ความฝัน แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ผมต้องคุยกับท่าน จำนวนมันมหาศาล สำหรับผม เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในโลก นิวเคลียร์เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในโลก ”
ทางเลือกหนึ่งที่ทรัมป์อาจนำเสนอกับปูตินคือข้อตกลงเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ใหม่ จากปัจจุบันเป็นข้อตกลงนุก ซึ่งจะหมดอายุในปี 2564 ขณะเดียวกัน มอสโกเร่งพัฒนาอาวุธเร็วกว่าเสียง ซึ่งเป็นภัยที่สหรัฐฯยังไม่สามารถป้องกันได้ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ทรัมป์ไม่ได้เอ่ยถึงว่าทั้งสองจะมีการพูดคุยกันเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับวิกฤตในสงครามที่ซีเรีย การปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี หรือกระบวนการสอบสวนกรณีที่รัสเซียพยายามแทรกแซงแคมเปญการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในปี 2559
ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CBS ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ทรัมป์ระบุว่า เขาจะถามรัสเซียอย่างแน่นอนในกรุงเฮลซิงกิเกี่ยวกับการแฮกข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่มีส่วนต้องรับผิดชอบ
“ นั่นเป็นช่วงการบริหารของโอบามา พวกรัสเซียทำเรื่องเหล่านั้นได้ในช่วงการบริหารของโอบามา ”
ทรัมป์ระบุว่า เขายังไม่ได้พิจารณาที่จะถามปูตินถึงเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีของเจ้าหน้าที่รัสเซียที่ถูกกล่าวหาให้กลับมาที่สหรัฐฯ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา “ ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น” เขากล่าวก่อนการประชุมกับผู้นำรัสเซีย
ขณะที่ทางฝ่ายรัสเซียลดความคาดหวังจากผลการประชุมครั้งนี้ แต่ระบุว่า การประชุมจะเป็นขั้นแรกในการแก้ไขวิกฤตความสัมพันธ์.