สหรัฐฯเปิดกองบัญชาการใหม่ในเกาหลีใต้
กองทัพสหรัฐฯในเกาหลีใต้เปิดกองบัญชาการทหารแห่งใหม่ในพื้นที่ซึ่งเรียกกันว่าฐานทัพต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ไม่กี่สัปดาห์หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่าเขาต้องการพาเจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯกลับบ้าน
สหรัฐฯและเกาหลีใต้เป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา และนานหลายทศวรรษแล้วที่กองทัพสหรัฐฯเกาหลี (USFK) มีกองบัญชาการอยู่ในยองซาน ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของกรุงโซล
ประเทศพันธมิตรทั้งสองตกลงกันตั้งแต่ทศวรรษปี 1990 เพื่อย้ายกองบัญชาการไปที่แคมป์ฮัมป์ฟรีย์ส ฐานทัพที่ตั้งอยู่ในเปียงแท็ก ซึ่งอยู่ห่างไปทางใต้ของกรุงโซลประมาณ 60 ก.ม. แต่โครงการถูกเลื่อนล่าช้ามานานหลายปี ทั้งจากการประท้วงของคนในพื้นที่ ประเด็นทางการเงิน และงานการก่อสร้างที่ครอบคลุมเป็นบริเวณกว้าง
โดยการย้ายกองบัญชาการใหม่ของ USFK เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.สำเร็จลุล่วง โดยฐานทัพใหม่แห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นกองบัญชาการสหประชาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ ภายใต้ธงประเทศพันธมิตรที่ร่วมต่อสู้ในสงครามเกาหลี โดยมีอีกหลายหน่วยงานที่จะตามมาดำเนินการที่นี่อีกในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ สหรัฐฯมีเจ้าหน้าที่ทหาร 28,500 นายที่ประจำการในเกาหลีใต้เพื่อป้องกันความมั่นคงจากกองทัพนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และมีความเคลื่อนไหวไม่กี่สัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศหลังการประชุมครั้งประวัติศาสตร์กับประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือว่า เขาจะสั่งระงับการร่วมซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้
โดยประธานาธิบดีทรัมป์มีความต้องการให้เกาหลีใต้จ่ายค่าใช้จ่ายให้กองทัพสหรัฐฯในเกาหลีใต้มากขึ้น และการเจรจาในประเด็นนี้ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
แต่ Vincent Brooks ผู้บัญชาการของ USFK ระบุในพิธีเปิดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ว่า ทางโซลเป็นฝ่ายสนับสนุนงบประมาณมากกว่า 90% ของค่าใช้จ่ายที่สูงถึง 10,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 359,424 ล้านบาทของแคมป์ฮัมฟรีย์ส
โดยที่แคมป์ฮัมฟรีย์จะประกอบด้วย 513 อาคาร รวมทั้งโรงเรียน ร้านค้า และธนาคารที่กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ 14.7 ล้านตารางก.ม. เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คน 43,000 คน ซึ่งรวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและครอบครัวของพวกเขาภายในสิ้นปี 2565
ซองยังมู รมว.กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ระบุว่า USFK จะบูรณาการบทบาทใหม่เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไป จากการเผชิญหน้ากับสงครามเย็นมาเป็นการดำรงสันติภาพให้คงอยู่ตลอดไป
รมว.ซองเสริมว่า หน่วยงานนี้จะไม่ทำหน้าที่เพียงแค่การดำรงสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้น แต่จะทำให้สันติภาพของโลกเป็นผู้สร้างเสถียรภาพในเอเชียเหนือ และเอเชียตะวันออกอีกด้วย.