“พิธา” ลุ้น ประกัน “ทานตะวัน” คดี 112 ทำโพลขบวนเสด็จ
“พิธา” รุดฟังการไต่สวนประกันตัว “ทานตะวัน” เป็นครั้งที่สาม ห่วงปัญหาสุขภาพจากการอดอาหารกว่าสามสิบวัน ชี้ เป็นการทรมานตนเองเพื่อความยุติธรรมของทุกคน วอนรัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบหากบ้านเมืองไร้ขื่อแปที่เป็นสากล
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 65 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะนายประกันของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง เดินทางมายังศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังผลการไต่สวนกรณีขอปล่อยตัวชั่วคราวทานตะวัน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการทำกิจกรรมโพลขบวนเสด็จ ซึ่งถูกถอนการประกันตัวและถูกควบคุมตัวอยู่ในทัณฑสถานหญิงกลาง พร้อมกับกระทำการอดอาหารประท้วงมาเป็นเวลากว่า 30 วันแล้ว
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายพิธาได้ใช้ตำแหน่ง ส.ส. ประกอบการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของทนายความมาแล้วถึงสองครั้ง ครั้งแรกในวันที่ 17 พฤษภาคม ซึ่งศาลได้ปฏิเสธโดยอ้างเหตุผลเรื่องไม่ปรากฏหลักฐานอัตราเงินเดือน และครั้งที่สองในวันที่ 20 พฤษภาคม แต่ศาลก็ได้อนุญาตให้ฝากขังต่ออีก 7 วัน ด้วยเหตุผลว่าอัยการเพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน จึงไม่อาจที่จะพิจารณาสั่งฟ้องได้ทัน แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ต้องหาในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งมีการไต่สวนคำร้องในวันนี้
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นฟังการไต่สวน ระบุว่า เป็นความพยายามครั้งที่สาม ในการขอปล่อยตัวชั่วคราว สิ่งที่น่ากังวลที่สุดตอนนี้คือปัญหาสุขภาพของทานตะวัน ที่ต้องอดข้าวมาสามสิบกว่าวัน จากการพูดคุยกับทนายความ ล่าสุดอาการของทานตะวันถือว่าเป็นวิกฤติทางสุขภาพแล้ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทานตะวันจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อไปรักษาตัวและออกมาสู้คดีอย่างตรงไปตรงมา
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังระบุอีกว่า ในฐานะนายประกัน ยินดีทำทุกวิถีทางให้ตะวันออกมาตามที่กรอบกฎหมายกำหนด และสามารถรับรองได้ว่าจะไม่มีการหลบหนีอย่างแน่นอน
“เรากำลังพูดถึงชีวิตคนๆ หนึ่ง ที่กำลังทรมานตนเองเพื่อความยุติธรรม บ้านเมืองเราควรต้องมีขื่อมีแป มีกระบวนการยุติธรรมที่เหมาะสมและน่าเชื่อถือตามโลกสมัยใหม่ กระบวนการฝากขังต้องยึดตามหลักสากล บ้านเมืองที่ไม่มีขื่อแปทำให้ความขัดแย้งของคนในชาติทวีความรุนแรงขึ้น ประเทศไทยเป็นสมาชิกปฏิญญากับสากลหลายฉบับ โดยเฉพาะ ICCPR ที่ต้องให้สิทธิการประกันตัวและการสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาบริสุทธิ์ไว้ก่อน (presumption of innocence) แต่ในสภาพการณ์ที่ไร้ขื่อแปเช่นนี้ย่อมไม่มีใครอยากคบค้ากับเรา จึงขอให้ผู้มีอำนาจคิดถึงผลกระทบเหล่านี้ให้มากไว้ด้วย” พิธา กล่าว