มุนคุยน้องสาวคิมเป็นทางการ
ประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้พบปะกับน้องสาวของคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. โดยหวังจะทำให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกลายเป็นกระบวนการที่มีความหมายที่อาจช่วยในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับจุดยืนที่ตึงเครียดของโครงการสะสมอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
โดยประธานาธิบดีมุนเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมพูดคุยและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับคิมโยจอง น้องสาวของประธานาธิบดีคิม ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล
คิมโยจองเดินทางมาถึงเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 9 ก.พ.เพื่อร่วมรับชมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในเมืองพยองชาง เมืองสกีรีสอร์ทบนภูเขา ที่ซึ่งเธอได้พบกับผู้นำเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก ทั้งสองจับมือกันและเชียร์นักกีฬาจากทั้งสองประเทศซึ่งเดินพาเหรดเข้ามาในสนามกีฬาร่วมกันภายใต้ธงรวมชาติเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
ทั้งนี้ ความต้องการของผู้นำเกาหลีใต้เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ
รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์แห่งสหรัฐฯ ก็เข้าร่วมในพิธีเปิดโอลิมปิกด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้มีการพูดคุยกับคณะผู้แทนจากเกาหลีเหนือ
ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือเชื่อว่า มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงของสหประชาชาติซึ่งปิดกั้นแหล่งรายได้ของเกาหลีเหนืออาจมีส่วนกดดันให้เกาหลีเหนือต้องเดินหน้าสานสัมพันธ์กับเกาหลีใต้มากยิ่งขึ้น
“ ผมคิดว่า การเข้ามาสานสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ เนื่องจากเกาหลีเหนือได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตร และความจริงที่ว่ามีความเชื่อมโยงกันระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ที่มีเป้าหมายร่วมกันในระยะเวลาอันใกล้ ” Andray Abrahamian นักวิจัยที่ Pacific Forum CSIS ในฮาวายให้ความเห็น
“ เกาหลีเหนือควรเข้าใจว่า ต้องมีการประชุมหรือการพูดคุยอย่างจริงจังเกิดขึ้น มุนจำเป็นต้องได้บางอย่างจากสหรัฐฯ – บางอย่างที่จะทำให้มีการระงับโครงการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ ” เขากล่าว
รองประธานาธิบดีเพนซ์กล่าวว่า สหรัฐฯ และเกาหลีใต้เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดในการรับมือกับเกาหลีเหนือ
“ ผมมีความเชื่อมั่นมาก และท่านประธานาธิบดีเองก็เช่นกัน ว่าประธานาธิบดีมุนจะมีจุดยืนที่แข็งแกร่งร่วมกับเราในการกดดันอย่างเข้มข้น ”
เขากล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อ NBC โดยยังคงมีทางเลือกในการรับมือกับวิกฤต
“ ไม่มีความผิดพลาดเรื่องนี้ สหรัฐฯ มีทางเลือกด้านกองทัพที่จะรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แต่อย่างที่เคยบอก เราหวังจะมีทางเดินที่ดีขึ้น ” รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว
ในกรุงวอชิงตัน หยางจี๋ชิเอกอัครราชทูตของจีนประจำสหรัฐฯ กล่าวกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า จีนหวังว่าสหรัฐฯ และจีนจะสามารถเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันในประเด็นเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันจีน ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดและพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ ให้มีความเคลื่อนไหวมากขึ้นในโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ
น.ส.คิมโยจอง วัย 28 ปีมีส่วนสำคัญในการเป็นตัวแทนของเกาหลีเหนือร่วมกับคิมยองนัม ประมุขแห่งรัฐด้านพิธีการแห่งเกาหลีเหนือ โดยเธอได้จับมือประธานาธิบดีมุนและยิ้มอ่อนในขณะที่ผู้นำเกาหลีใต้เดินเข้ามาในห้องประชุมในทำเนียบเมื่อวันที่ 10 ก.พ.
โดยหลังการพูดคุย คณะผู้แทนจากทั้งสองประเทศได้รับประทานอาหารคือเกี๊ยวน้ำใส่ปลาแห้ง ซึ่งเป็นอาหารพิเศษของคาบสมุทรเกาหลี และดื่มเหล้าโซจู ร่วมกัน.