ข่าวเด่น ข่าวดัง วันที่ 24-25 ม.ค.2565
“ไม่ปังเสียแล้ว สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคก้าวไกล ได้แก่ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฝีปากกล้า ผู้สร้างชื่อจากการอภิปรายแฉ IO กองทัพ”
เรื่องที่ 732 ผู้ว่าฯพรรคก้าวไกล มาพร้อมนโยบาย “ชน รื้อปัญหาใต้พรหม” โดยพยายามนำเสนอการแก้ไขปัญหาที่ต้น เหตุ อันจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างถูกจุด ยั่งยืน เช่น ปัญหาการเรียกเก็บส่วยใน กทม.
“ถ้าผู้ว่าฯชื่อวิโรจน์ จากพรรคก้าวไกล กรุงเทพฯต้องหยุดไถทันที ใครมีหลักฐานขอให้ส่งมา ผมจะลากคอพวกมันมาลงโทษให้ดู” วิโรจน์ กล่าว
ก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกล โฆษณาว่า ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯของพรรคจะต้อง “ใหม่ ชัด โดน” แต่เอาเข้าจึงกลับไม่เป็นไปอย่างนั้น ทำเอาแฟนคลับผิดหวังไปตามๆกัน
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ยังไม่ชัดเจนจะมีขึ้นเมื่อใด แต่สรุปตอนนี้มีว่าที่ผู้สมัคร 4 คนแล้ว ที่ประกาศตัวอย่างเป็นทางการ
คนที่หนึ่ง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ลงอิสระ คนที่สอง สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ คนที่สาม รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.ลงอิสระ และ และล่าสุด คนที่สี่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ก้าวไกล ลงในนามพรรคก้าวไกล
เรื่องที่ 733 ฉับพลันที่เห็นมีการประกาศปรับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศขึ้น หน้าของ “พี่พงษ์-สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์” รองนายกรัฐมนตรี รมว.พลังงานก็ลอยขึ้นมาทันที แต่ในรอบนี้ ดูเหมือนว่าพี่พงษ์จะยังพอหายใจหายคอได้อีกครั้ง เพรราะราคาน้ำมันที่ประกาศขึ้นเน้นๆ เฉพาะกลุ่มน้ำมันเบนซิน 40-60 สตางค์ โดยเป็นน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 40 สตางค์ต่อลิตร ส่วนเบนซิน E20 และ E85 ปรับขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร
ขณะที่ดีเซลทุกชนิดราคาคงเดิม ช่วย “พี่พงษ์” ไว้ได้อีกครา แต่จะอั้นได้นานขนาดไหนกันเชียวในเมื่อน้ำมันในตลาดโลกก็ยังพุ่งไม่หยุด ขณะที่เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ร่อยหรอลงจนเรียกว่า จะถังแตกอยู่แล้ว ส่วนการบากหน้าไปขอให้กระทรวงการคลังลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันช่วยก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล เพราะ “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ขุนคลังพูดชัด เจน ลดภาษีแล้ว รายได้ไม่เข้าเป้าใครจะรับผิดชอบ!!
ป่านนี้ ไม่รู้ว่า “พี่พงษ์” และทีมงานจะปวดขมับมากน้อยแค่ไหน
บก.ชวนคุยขอเอาใจช่วย และรอชื่นชมแนวทางแก้ปัญหาอยู่นะขอรับกระผม
เรื่องที่ 734 ส่วนอีกฝั่งทางกระทรวงอุตสาหกรรมก็ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องอะไรร้อนๆ ให้ต้องขบคิด แต่ก็ต้องขอชื่นชมในกระ บวนการทำงาน เพราะในเมื่องบอกไว้แล้วว่า มีมาตรการที่จัดทัพรอปล่อยของตามเวลา วันนี้ก็แห่มาอวดผลงานกันหลายองค์กรเลยดีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ท่านผู้ว่า กนอ. “วีริศ อัมระปาล” ลงพื้นที่ไปถึงสระแก้ว เพื่อขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมสระแก้วดึงดูดการลงทุนในพื้นที่ พร้อมหาแนวทางการบูรณาการความร่วมมือจากทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายด่านอรัญประเทศ ให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมร่วมกันอย่างยั่งยืนและกรม ส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพ้อมที่โชว์ผลสำเร็จการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเข้าถึงตลาดออนไลน์ 2.0 ผ่านกิจ กรรมเพิ่มศักยภาพ e-Commerce ให้ดีพร้อม ภายใต้ โครงการ D-พร้อมสู้ อยู่ได้ ไปรอด กับการตลาดออนไลน์ 2.0 ในยุคโควิด โดยเน้นยกระดับศักยภาพด้านการทำตลาดออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ 3 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมแฟชั่น และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ขอให้รักษาผลงานดีๆแบบนี้ไว้ให้ตลอดนะขอรับ
เรื่องที่ 735 มาแล้ว มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 จากเดิมคาดว่า จะเริ่มโครงการในเดือนมี.ค.-เม.ย. เพียง 2 เดือน แต่ยังไม่ทันข้ามเดือนม.ค. พ้นเดือนแรกปีใหม่ มาตรการชุดก็ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียน “บิ๊กตู่” ส่วนรายรายละเอียดเป็นยังไงบ้าง ขุนคลัง แจงสี่เบี้ยเป็นที่เรียบร้อยไร้ข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น
แม้ว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะมาเร็วไปหน่อย แต่คนกระทรวงการคลังไม่ได้โนเกีย เร่งศึกษาเอาไว้ก่อนหน้านี้ เรียกว่า “คมในฝัก” โดยเฉพาะ “ปลัดพี่ตู่-กฤษฎา จีนะวิจารณะ” งานนี้ ไม่มีลูกเล่น ถามมาตอบไป เสียงดังฟังชัดเจนไร้คลื่นแทรก
ส่วนวิธีการลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส4 ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (คนเดิม) ต้องยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป โดยจะต้องเริ่มใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ภายในวันที่ 28 ก.พ.เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิทันที
หากยืนยันสิทธิและใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ครั้งแรกในระยะที่กำหนดสามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ถึงวันที่ 30 เม.ย.65 รวมระยะเวลา 3 เดือน
ประชาชนทั่วไปที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.จนกว่าจะครบจำนวนประมาณ 1 ล้านสิทธิ โดยสามารถใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.ถึงวันที่ 30 เม.ย65
โดยคาดว่า จะช่วยให้จีดีพีทั้งปี 2565 เพิ่มขึ้น 0.21% ต่อปี
โดยนพวัชร์