อากาศฮ่องกงแตะระดับอันตราย
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.หลายพื้นที่ในฮ่องกงประสบกับปัญหามลพิษในอากาศที่หนาแน่น อ้างอิงจากการรายงานของสื่อท้องถิ่น
ในช่วงเวลาบ่าย จากข้อมูลที่วัดได้ของ 16 สถานีเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ มีถึง 14 สถานีที่แสดงค่าระดับมลพิษ ‘สูง’ จนถึง สูงมาก’ และมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ จากการรายงานของ South China Morning Post (SCMP)
ต่อมาในเวลา 15.00 น. สถานีเฝ้าระวังคุณภาพอากาศทั้งหมด ยกเว้นเพียงแค่ 2 สถานี แสดงผลอย่างชัดเจนว่า ค่ามลพิษในอากาศสูงจนอยู่ในระดับ 7-10 จากทั้งหมด 11 ระดับของดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศ อ้างอิงจากรายงานของหนังสือพิมพ์ SCMP
โดยสถานีในย่าน Yuen Long, Mong Kok, Tuen Mun, Tung Chung, Kwai Chung และ Tsuen Wan สามารถอ่านค่ามลพิษได้ระดับ 10+ ในเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งเป็นระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จากการรายงานของ SCMP
ต่อมาในเวลา 22.00 น. 2 สถานีในย่าน Tsuen Wan และ Tuan Mun ยังคงมีมลพิษในอากาศหนาแน่นอยู่เช่นเดิม
กระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระบุว่า ตรวจพบปริมาณไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) ในระดับที่สูงกว่าปกติ และฝุ่นละอองเหล่านี้ครอบคลุมไปทั่วพื้นที่เกาะฮ่องกง โดยกระแสลมพัดพาเอามลพิษเข้ามาในบริเวณเกาะฮ่องกง และในเวลาเดียวกัน ลมอ่อนๆ จากตะวันตกเฉียงเหนือก็เข้ามาปิดล้อมไม่ให้มลพิษสลายตัวออกไป ทางกระทรวงรายงาน
หน่วยงานรัฐด้านสิ่งแวดล้อมของฮ่องกงยังได้ออกมาเตือนให้ผู้สูงอายุและเด็กอยู่แต่ในบ้าน อย่าออกไปข้างนอก เพราะอาจป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้
ตัวเลขที่วัดได้หากเหนือกว่าระดับ ‘สูงมาก’ ทางการได้แนะนำว่า ผู้สูงอายุและคนป่วยโรคหัวใจ หรือผู้ที่มีอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจควรลดการออกมาข้างนอกบ้าน หรืองดกิจกรรมนอกบ้านทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย
ทาง SCMP ยังรายงานอีกว่า คำเตือนนี้มีขึ้นยังไม่ถึงหนึ่งวันหลังจากมีการเปิดเผยสถิติของทางการว่า ประชาชนในฮ่องกงต้องประสบกับอากาศที่เป็นพิษมากขึ้นเกือบสองเท่าในปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2559
มีรายงานพยากรณ์อากาศว่า จะมีเมฆปกคลุมหนาขึ้นและจะมีฝนตกในอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งจะช่วยลดระดับมลพิษที่หนาแน่นให้น้อยลง อ้างอิงจากกระทรวงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ในขณะที่ฮ่องกงมีปริมาณมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้น แต่ในปี 2560 กรุงปักกิ่งของจีนและเมืองโดยรอบที่เคยประสบปัญหาอย่างรุนแรง กลับมีปริมาณมลพิษในอากาศลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากรัฐบาลคุมเข้มในการลดปริมาณการใช้ถ่านหินอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีมาตรการอื่นๆ ที่ครอบคลุมและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด.