ธ.ก.ส.รุกต่อ! เฟ้นหาชุมชนอุดมสุขฯ สร้างต้นแบบการพัฒนา
ธ.ก.ส. เดินหน้าจัดประกวดชุมชนอุดมสุขยอดเยี่ยม ปีบัญชี’64 หวังสร้างแรงบันดาลใจในการยกระดับชุมชน ค้นหาจากชุมชนอุดมสุข ธ.ก.ส. กว่า 5,200 แห่ง คัดให้เหลือ 27 ชุมชน เข้าชิงชัยระดับประเทศ ลุ้นรางวัลชนะเลิศ 1 แสนบาท และรางวัลอื่น ๆ พร้อมโล่เกียรติยศ ติดตามรับชมผลงานชุมชนผู้เข้าประกวด 20 ต.ค. นี้
นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผจก.ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารฯ ได้จัด “โครงการประกวดชุมชนอุดมสุขยอดเยี่ยม ประจำปีบัญชี 2564” คัดเลือกชุมชนอุดมสุข ธ.ก.ส. จากทั่วประเทศ จำนวน 5,216 ชุมชน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับชุมชน รวมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนอื่น ๆ ในการปรับเปลี่ยนสู่ความยั่งยืนและเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง สอดรับแนวการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านการพัฒนาชุมชน ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้ เพื่อยกระดับสู่การเป็นชุมชนอุดมสุข โดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา ทั้งในด้านการส่งเสริม สนับสนุน กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การมีส่วนร่วมและการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน จนสามารถจัดทำแผนงานโครงการหรือแผนธุรกิจชุมชนได้
สำหรับ คุณสมบัติของชุมชนที่เข้าประกวด ต้องเป็นชุมชนอุดมสุขที่มีผลประเมินอยู่ในระดับ A เน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิกและภาคีเครือข่าย มีการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นมาสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต และมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการประกอบอาชีพ ซึ่งการตัดสินในระดับประเทศจะใช้เกณฑ์ ทั้งด้านการตลาด การจัดการความรู้ การพัฒนาต่อยอด การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และด้านธรรมาภิบาล ทั้งนี้ ในการจัดประกวด แต่ละจังหวัดจะคัดเลือกชุมชนอุดมสุขดีเด่น อย่างน้อยจังหวัดละ 1 ชุมชน เพื่อนำมาประกวดในระดับภูมิภาค รวม 9 ภาค โดยคัดเลือกชุมชนดีเด่นภาคละ 3 ชุมชน รวม 27 ชุมชน จากนั้นนำมาคัดเลือกชุมชนยอดเยี่ยมระดับประเทศ ในรูปแบบ New normal โดยให้ชุมชนส่งรายละเอียดข้อมูลในการนำเสนอให้คณะกรรมการตัดสินการประกวดชุมชนอุดมสุขพิจารณาตามหลักเกณฑ์การประกวดชุมชนอุดมสุขเบื้องต้น และนัดหมายผู้นำชุมชน นำเสนอและ ตอบข้อซักถามผ่านระบบ VDO Conference ในวันที่ 20 ตุลาคม 2564
ในส่วนของ ชุมชนที่ชนะการประกวดในระดับประเทศ รางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 70,000 บาท และรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลระดับภูมิภาค รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 50,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 30,000 บาท และรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศในทุกรางวัล รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 1,120,000 บาท
นอกจากนี้ โครงการฯ ยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายสาขามาร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน ได้แก่ คุณลดาวัลย์ คำภา ประธานคณะอนุกรรมการเศรษฐกิจฐานราก ธ.ก.ส. ดร.อนุรักษ์ เรืองรอบ เลขาธิการสหพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ผู้แทนวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้แทนกรมการพัฒนาชุมชน ทั้งนี้ ประกาศผลชุมชนผู้ชนะในวันที่ 20ตุลาคม 2564 ผ่านทางเว็บไซต์ www.baac.or.th
“ธ.ก.ส. มุ่งหวังที่จะให้ชุมชนที่ได้รับรางวัลเป็นแบบอย่างของการพัฒนาให้กับชุมชนอื่น ๆ อีกทั้งส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพของชุมชนดีเด่นทั้ง 27 แห่งอย่างต่อเนื่อง ผ่านการสนับสนุนให้ชุมชนนำเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่มาเพิ่มประสิทธิภาพการประกอบอาชีพของคนในชุมชน สร้างมูลค่าเพิ่มการผลิต และการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ตามแนวคิดของการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) ซึ่งประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ก่อให้เกิดธุรกิจในชุมชนเพื่อให้คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของชุมชน (Gross Community Product : GCP) อันเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายของความยั่งยืนต่อไป” นายธนารัตน์ กล่าว.