จีนยกเลิกแบนนำเข้าชีส
จีนได้ยกเลิกการห้ามไม่ให้นำเข้าชีสหลากหลายชนิด ทั้งชีสแบบนุ่มและชีสที่ใช้วิธีการบ่ม โดยรวมทั้งชีสโร้คฟอร์ ชีสแดนิช บลู ชีสกอร์กอนโซลา และชีสสติลตัน
เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของจีนได้ออกกฏห้ามการนำเข้าชีสเหล่านี้ เนื่องจากพบการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ซึ่งใช้ในการผลิตชีส โดยแบคทีเรียดังกล่าวไม่ได้รับการยอมรับในจีน
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กักกันได้ยกเลิกการแบนชีส หลังจากได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากนี้ประเทศจีนสามารถนำเข้าชีสต่าง ๆ ที่ถูกแบนชั่วคราวได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งกลุ่มตัวแทนสหภาพยุโรป และสถานทูตฝรั่งเศสจะรับหน้าที่จัดงานสัมนาวิชาการระหว่างผู้เชี่ยวชาญ ทั้งยุโรป และจีน เพื่อช่วยกันปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้น เพื่อช่วยกันหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการแบนอีกครั้งในอนาคต
เหล่าผู้ค้าชีสหรือเนยแข็งในจีนต่างยินดีเมื่อได้ทราบข่าวดังกล่าว
วินเซนต์ มาเรียง ผู้ร่วมก่อตั้งของ Cheese Republic ระบุว่า “เรารู้สึกดีใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้ ผมรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนการแสดงออกของประเทศจีนว่าพวกเขามีความคิดที่เปิดกว้างในการขายสินค้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะชีส”
บริษัท Cheese Rupblic มีบริการส่งสินค้าออนไลน์ ซึ่งมีฐานอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้ โดยบริษัทนี้ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการผลิตชีสเอาไว้ และแน่นอนว่าการแบนการนำเข้าชีสก็ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ในบริษัทมากกว่าครึ่ง
หลังจากการยกเลิกการแบนนำเข้าชีส อาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าซัพพลายหรือสินค้าชีสจะถูกส่งไปยังผู้ค้าปลีกในจีนได้
Euromonitor หรือบริษัทวิจัย คาดว่าการขายชีสในจีนปีนี้น่าจะสามารถทำเงินได้มากถึง 5,300 ล้านหยวน หรือราว 26,540 ล้านบาท มากกว่าปีก่อนถึง 26%
ชีสจำนวนมากถึง 90% นั้นเป็นชีสที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยส่วนมากจะนำเข้ามาจากนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย
ทั้งนี้ ชีสได้รับความนิยมในจีนอย่างต่อเนื่องผ่านธุรกิจอาหารฟาสต์ฟูด และร้านอาหารที่ขายพิซซ่า.
