HBO ยันเกม ออฟ โธรนส์หลุดไม่ใช่ฝีมือแฮกเกอร์
ตอนที่มีกำหนดฉายต่อไปของซีรีส์เรื่องเกม ออฟ โธรนส์ ถูกฉายก่อนกำหนดและถูกเผยแพร่ออนไลน์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับซีรีส์แฟนตาซีเรื่องนี้รั่วไหลออกมาเพื่อเป็นการโจมตี
อย่างไรก็ตาม แหล่งต้นตอของการเผยแพร่ในครั้งนี้ไม่ใช่เหล่าแฮกเกอร์ หรือโจรเรียกค่าไถ่ไซเบอร์ แต่กลับเป็นทางช่องบรอดแคสเองที่ปล่อยตอนใหม่ออกมาบนพื้นที่สตรีมมิงเร็วเกินไป
ตอนที่ถูกเผยเเพร่ออกมาชื่อว่า Death is the Enemy ซึ่งหลังจากเผยแพร่ออกมาอย่างผิดพลาดก็ถูกลบออกแล้วเรียบร้อย แต่ก็ยังถูกคัดลอกไฟล์เนื่องจากดำเนินการได้ไม่รวดเร็วพอ
นอกจากนี้ ซีรีส์อย่างทวิน พีคส์ ก็เคยประสบกับความผิดพลาดคล้ายคลึงกันก่อนหน้านี้
โฆษกของ HBO ยุโรป กล่าวโทษบริษัทที่ไม่ระบุชื่อ ซึ่งเป็นผู้ดูแลการเผยแพร่สำหรับความผิดพลาดในครั้งนี้
Tom Krogsgaard Nielsen ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า “ เราทราบมาว่าตอนต่อไปของเกม ออฟ โธรนส์ ถูกโพสต์ออนไลน์อย่างสุดวิสัยในระยะเวลาสั้น ๆ บนแพลตฟอร์ม HBO Nordic และ HBO Espana “
“ เหตุการณ์ความผิดพลาดครั้งนี้มาจากผู้จัดจำหน่ายบุคคลที่ 3 และซีรีส์ตอนดังกล่าวก็ถูกลบทันทีหลังจากที่ทีมงานทราบ ”
“ แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเหตุการณ์บนโลกไซเบอร์ของ HBO ที่สหรัฐฯ แต่อย่างใด ”
มีรายงานระบุว่า วิดีโอภาพของตอนที่ถูกฉายก่อนกำหนดพร้อมคุณภาพความคมชัดสูง ถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์อย่างยูทูบ, เดอะ เดลี โมชัน, อินสตาแกรม และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
อ้างอิงจากข้อมูลของเว็บไซต์ Torrentfreak ระบุว่า แม้ว่าซีรีส์ตอนดังกล่าวจะถูกลบออกจากแพลตฟอร์มของ HBO เองแล้ว แต่ตัววิดีโอของซีรีส์ตอน Death is the Enemy ยาว 66 นาทีเต็มที่ถูกคัดลอกยังคงถูกเผยแพร่อยู่บนแพลตฟอร์มอื่นจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง HBO ต้องประสบปัญหาด้านความปลอดภัยหลายครั้ง โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ไม่ระบุตัวตนได้เปิดเผยเกี่ยวกับสคริปต์ของซีีรีส์เรื่องเกม ออฟ โธรนส์ และข้อมูลภายในบริษัท รวมถึงวิดีโอบางตอนของรายการอื่น ๆ ในช่อง HBO ที่ไม่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ เช่น Curb Your Enthusiasm และ Insecure
โดยแฮกเกอร์เหล่านี้อ้างว่า ได้โขมยเอาข้อมูลทั้งหมด 1.5 เทราไบต์ของทาง HBO ไปได้
แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่ช่อง HBO เท่านั้นที่ประสบปัญหาการฉายซีรีส์
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ทาง Sky Deutschland ทำการฉายซีรีส์เรื่องทวิน พีคส์ ผิดพลาด จากที่ควรเป็นตอนที่ 13 กลายเป็นตอนที่ 14 แทน.