เศรษฐีจีนมุ่งย้ายออกนอกประเทศ
เหล่าเศรษฐีชาวจีนต่างให้ความสนใจกับการย้ายถิ่นฐานไปอาศัยในประเทศแคนาดาเพิ่มมากขึ้น และเริ่มลดความนิยมชอบในสหราชอาณาจักรลง แต่ยังคงต้องการจะเดินทางไปยังสหรัฐฯ มากที่สุด
อ้างอิงจากการสำรวจโดยบริษัท Hurun Report และกลุ่มให้คำปรึกษาด้านวีซ่าได้ทำการค้นคว้าและเฝ้าติดตามแนวโน้มการย้ายถิ่นฐานของชาวจีนแต่ละรายที่มีรายได้ระหว่าง 10-200 ล้านหยวน
สหรัฐฯยังคงครองแชมป์ในอันดับประเทศที่เศรษฐีชาวจีนอยากจะย้ายถิ่นฐานไปอาศัยติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ในขณะที่แคนาดาสามารถแซงสหราชอาณาจักรขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก และกลายเป็นตัวเลขอันดับ 2 ของผู้มีรายได้สูงและเศรษฐีผู้ร่ำรวยในจีน
ผู้ตอบแบบสำรวจมองว่าการศึกษาและราคาสำหรับที่อยู่อาศัยในแคนาดาในปัจจุบันน่าสนใจมากขึ้นกว่าในอดีต
ในเมืองอย่างลอส แองเจลิส ซีแอตเทิล ซาน ฟรานซิสโก และนิวยอร์ค ถือเป็นเมืองอันดับต้น ๆ ของโลกที่ผู้ย้ายถิ่นฐานหรือนักลงทุนชาวจีนสนใจ แต่ในรายงานระบุว่า เมืองหลายเมืองในสหรัฐฯ “ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบ” เท่าที่เคยเป็น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศสหรัฐฯ
เศรษฐีชาวจีนระบุว่า มีหลายเหตุผลที่ทำให้พวกเขาอยากจะใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ โดยในรายงานพบว่า มีผู้ตอบแบบสำรวจกว่าครึ่งที่ให้เหตุผลว่า “สภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิต” หรือ “สภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตอย่างที่ฝัน” ถือเป็นแรงผลักดันอย่างหนึ่งที่ทำให้พวกเขาอยากย้ายออกไปนอกประเทศจีน
นายเดวิด เฉิน ทนายของกลุ่มให้คำปรึกษาด้านวีซ่าระบุว่า “ชาวจีนจำนวนมากยังไม่พอใจกับสภาพและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นที่พวกเขาอาศัยอยู่” นอกจากนี้ ค่าเงินหยวนของจีนยังสร้างความกังวลให้กับประชาชนอีกด้วย
ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 84% ซึ่งสูงขึ้นถึง 50% จากปีก่อน ระบุว่า พวกเขากังวลเกี่ยวกับการลดค่าเงินหยวนในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ค่าเงินหยวนในเดือน พ.ย. ปีก่อนนั้นลดลงต่ำสุดในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาเมื่อต้นปี 2560 นี้
ล่าสุด เศรษฐีชาวจีนส่วนใหญ่จำใจต้องเข้าร่วมโครงการ EB-5 ซึ่งจะทำให้ผู้ย้ายถิ่นฐานสามารถทำกรีนการ์ดได้ หากพวกเขาลงทุนในโครงการสร้างงานให้สหรัฐฯเป็นจำนวนเงินมากกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการขอวีซ่าเข้าสหรัฐฯนั้นถูกจัดระเบียบให้คุมเข้มและรัดกุมมากยิ่งขึ้น.
หมายเหตุ 1 หยวน = 5.08 บาท / 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 33.77 บาท / 18 ก.ค. 2560