สรรพสามิตแจง! ติดเบรกข้อเรียกร้อง ส.คราฟท์เบียร์
สรรพสามิตชี้แจงประเด็นข้อเรียกร้อง “มาตรการเยียวยา” ผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายย่อย สรุป! ให้ไม่ได้ทั้ง 2 ข้อ หวั่นคุณภาพเบียร์สดไม่ได้มาตรฐาน และการแบ่งชำระภาษี อาจเสี่ยงติดตามเรียกเก็บในภายหลัง
นายณัฐกร อุเทนสุต ผอ.สำนักแผนภาษี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะ “โฆษกกรมสรรพสามิต” กล่าวถึงกรณี สมาคมคราฟท์เบียร์แห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมรวมตัวที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการเพื่อบรรเทาและเยียวยาผู้ประกอบการ ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิต 2 ประเด็น ดังนี้
1. ขอให้ผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมาย ห้ามเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ โดยอนุญาตให้ร้านค้าสามารถจำหน่ายเบียร์สดในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกลับไปบริโภคที่บ้าน
กรมสรรพสามิต ขอชี้แจงว่า ตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 157 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดเปลี่ยนแปลงภาชนะสุราเพื่อการค้า เว้นแต่เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ผลิตสุรา หรือเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขายสุราประเภทที่ 2 เฉพาะกรณีผู้ซื้อได้ร้องขอให้เปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุสุราเพื่อดื่มในขณะนั้น”
วัตถุประสงค์ของบทบัญญัติมาตรานี้ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้สามารถบริโภคสินค้าที่ได้มาตรฐานปราศจากการปนเปื้อน ซึ่งถ้าหากให้ร้านค้าสามารถเปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุได้อย่างอิสระนอกโรงอุตสาหกรรม ซึ่งอาจมิได้มีการควบคุม ตรวจสอบคุณภาพระหว่างการเปลี่ยนแปลงภาชนะเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค อาจทำให้เบียร์สดดังกล่าวเกิดปัญหาการปนเปื้อน รวมถึงคุณภาพของเบียร์สดอาจจะเปลี่ยนแปลงไประหว่างการเปลี่ยนแปลงภาชนะ
ดังนั้น การอนุญาตให้ร้านค้าสามารถเปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุเบียร์สดได้อย่างอิสระ อาจจะส่งผลต่อผู้บริโภคให้ได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
2. ขอให้ผู้นำเข้าสามารถแบ่งชำระภาษีสรรพสามิตเป็นงวดๆ ให้แก่ผู้ประกอบการคราฟท์เบียร์ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
กรมสรรพสามิต ขอชี้แจงว่า การอนุญาตให้ผู้นำเข้าสามารถแบ่งชำระภาษีเป็นงวดๆ จะเกิดความเสี่ยงในการติดตามเรียกเก็บภาษีในภายหลัง เนื่องจากมีการนำสินค้านำเข้าที่ยังไม่ได้ชำระภาษีออกไปจำหน่าย ส่งผลให้การควบคุม ติดตามสินค้าดังกล่าวให้มาชำระภาษีจะดำเนินการได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าบริโภคต่าง ๆ รวมถึงคราฟท์เบียร์ด้วย
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้ให้อำนาจกรมศุลกากรในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากสินค้านำเข้าแทนกรมสรรพสามิต และตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 54 (2) บัญญัติว่า “ในกรณีสินค้าที่นำเข้าให้ผู้นำเข้า ยื่นแบบรายการภาษีตามแบบที่อธิบดีกำหนดพร้อมกับชำระภาษีในเวลาที่ออกใบขนสินค้าให้ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร” ซึ่งเป็นการชำระภาษีในคราวเดียวกับอากรศุลกากร และภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย.