สหรัฐฯ เลิกแบนนำแล็ปท็อปขึ้นเครื่องจากอาบูดาบี
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. สหรัฐฯ ได้ประกาศยกเลิกมาตรการห้ามนำคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปขึ้นเครื่องบินในเที่ยวบินจากกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่เดินทางมาสหรัฐฯ โดยระบุว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยของสายการบินเอทิฮัดมีความเข้มงวดเพียงพอ
เอทิฮัด แอร์เวย์ขานรับการตัดสินใจของสหรัฐฯ และให้ความสำคัญกับกับความสะดวกสบายที่สนามบินนานาชาติกรุงอาบูดาบีที่ซึ่งผู้โดยสารจะผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ก่อนที่จะเดินทางถึงสหรัฐฯ จากมาตรการความปลอดภัยที่เหนือชั้นกว่าซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบที่สหรัฐฯ ต้องการ
เจ้าหน้าที่ TSA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลระบบความปลอดภัยของผู้โดยสารขึ้นเครื่องของสหรัฐฯ พิสูจน์ได้ด้วยตาว่ากระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างถูกต้อง อ้างอิงจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ
ทั้งนี้ สายการบินเอทิฮัดเป็นเพียงสายการบินเดียวที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงอาบูดาบีไปสหรัฐฯ
เมื่อเดือนมี.ค. สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการห้ามนำคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปขึ้นเครื่องในทุกเที่ยวบินที่เดินทางไปสหรัฐฯ จาก 10 สนามบินใน 8 ประเทศ คือ อียิปต์ โมร็อกโก จอร์แดน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต กาตาร์ และตุรกี เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากระเบิดที่สามารถควบคุมด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในห้องโดยสารบนเครื่อง
โดยสหราชอาณาจักรประกาศใช้มาตรการห้ามนำคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปขึ้นเครื่องตามสหรัฐฯ อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
David Lapan โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ความพยายามของเอทิฮัด แอร์เวย์ในการใช้มาตรการควบคุมความปลอดภัยที่เข้มงวดถือเป็นต้นแบบสำหรับสายการบินต่างประเทศและในประเทศ
สนามบินและสายการบินอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน เช่น เอมิเรตส์ แอร์ไลน์และกาตาร์ แอร์ไลน์ยังคงต้องปฏิบัติตามคำสั่งของสหรัฐฯ ต่อไป เขากล่าว
“ เรามุ่งหวังที่จะได้ทำงานกับสายการบินอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่า จะมีการปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างรวดเร็วเท่าที่จะเป็นไปได้ ”
ทั้งนี้ เอทิฮัด แอร์เวย์มี 45 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ที่ทำการบินระหว่างกรุงอาบูดาบีกับสหรัฐฯ อ้างอิงจากข้อมูลของสายการบิน
สายการบินเอมิเรตส์ที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองดูไบ ซึ่งเป็นสายการบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดจากจำนวนผู้โดยสารและเป็นคู่แข่งสำคัญของเอทิฮัด แอร์เวย์ได้ประกาศเมื่อเดือนเม.ย.ว่า จะลดจำนวนเที่ยวบินที่เดินทางไป 5 เมืองใหญ่ของสหรัฐฯ เนื่องจากมีดีมานด์ที่ลดลง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯประกาศใช้คำสั่งห้ามเดินทางกับ 6 ชาติมุสลิมและห้ามนำคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปขึ้นเครื่อง.