ความเชื่อมั่นธุรกิจในอังกฤษลดลง
ความไม่มั่นคงที่เกิดจากรัฐสภาซึ่งพรรครัฐบาลไม่ได้ครองเสียงข้างมากส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจให้ดิ่งเหว
โดยโพลล์จากสถาบันกรรมการบริษัท หรือ IoD ที่มีสมาชิก 700 รายขานรับกับสถานการณ์ทางการเมืองของสหราชอาณาจักรโดยชี้ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจตกต่ำลงอย่างรุนแรงหลังจากมีผลการเลือกตั้งออกมาว่า พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ไม่ได้ครองเสียงข้างมากในสภา
โดยสมาชิกมองว่า ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความต้องการให้มีการเลือกตั้งอีกครั้งในปีนี้
เมื่อกลับไปดูผลโพลล์อีกครั้ง ก็จะเห็นว่าจะไม่มีผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในช่วงเวลาก่อนคริสต์มาส
ทั้งนี้ การสูญเสียเสียงข้างมากของพรรคอนุรักษ์นิยมในสภา ทำให้นายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ต้องหาเสียงสนับสนุนจากพรรค Democratic Unionist ของไอร์แลนด์เหนือเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น
สมาชิก 700 รายของสถาบันซึ่งเป็นผู้ตอบแบบสำรวจต้องการให้มีการทำข้อตกลงอย่างรวดเร็วกับทางสหภาพยุโรปในกระบวนการเปลี่ยนผ่านสำหรับเบร็กซิท พร้อมกับความชัดเจนของสถานะของแรงงานอียูในสหราชอาณาจักร
Andy Silvester หัวหน้าแคมเปญของสถาบันกล่าวกับสื่อบีบีซีว่า เขาคาดหวังที่จะเห็นความยีดหยุ่นมากขึ้นและการปฏิบัติที่เป็นจริงได้มากขึ้นของการเจรจาเบร็กซิท
การสำรวจของ IoD สะท้อนความเห็นของ Paul Drechsler ประธาน CBI ซึ่งกล่าวว่าสราชอาณาจักรจำเป็นต้องทำข้อตกลงในการบริหารจัดการเรื่องการเปลี่ยนผ่านและการันตีสิทธิของพลเมืองอียูก่อนที่จะมุ่งไปที่การพูดเรื่องเบร็กซิทกับความสัมพันธ์ทางการค้าในอนาคต
ขณะเดียวกัน บริษัทต้องเตรียมตัวสำหรับการลดจำนวนลงของแรงงานอพยพหลังจากกระบวนการเบร็กซิท
จากการสำรวจผู้นำทางธุรกิจ 500 คนโดย Resolution Foundation พบว่า เกือบ 1 ใน 5 คาดหวังว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงของเสรีภาพในการย้ายมาทำงานในสหราชอาณาจักรของพลเมืองอียู ขณะที่เกือบ 1 ใน 3 เชื่อว่าระบบจะยังคงเหมือนเดิมสำหรับผู้ได้งานในสหราชอาณาจักร
โดยทางผู้จัดทำการสำรวจเตือนว่า การอพยพที่น้อยลง ค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น และตลาดแรงงานที่ตึงเครียด อาจทำให้แรงงานราคาถูกสำหรับบริษัทในสหราชอาณาจักรต้องจบสิ้นลง.