แอ่วลำปาง
ลำปาง…เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา…ฤดูกาลท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงปลายปี
หลายคนเริ่มวางแผนใช้วันหยุดพักผ่อนที่เหลืออยู่ เพราะที่ทำงานบางแห่งไม่ให้ยกยอดไปใช้ข้ามปี อากาศเย็นสบายแบบนี้ เที่ยวที่ไหนก็สนุก หากวางแผนมาเที่ยวภาคเหนือแบบจังหวัดละวัน สองวัน มีวันหยุดสักอาทิตย์นึง ก็แอ่วม่วน กินลำ ได้ 2-3 จังหวัดใกล้ๆ กัน เดินทางข้ามจังหวัดใช้เวลาไม่มากนัก…สามเมืองพี่เมืองน้องก็ได้…ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่…มัวช้าอยู่ใย เริ่มต้นกันที่…หนึ่งในเมืองติดอันดับ “เมืองต้องห้าม…พลาด” ของไทยกันเลย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ชื่อเมืองนี้ว่า “เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา”…เมืองรถม้า…ลำปาง นั่นเอง! ถ้าถือเคล็ด กองทัพต้องเดินด้วยท้อง…หาอะไรกินกันก่อนออกลุย!!!
โอกาสดี รีบตื่นแต่เช้าหกโมง หาอาหารรับประทานกันเลย…ข้าวมันไก่อร่อยในลำปางมีหลายร้าน แถวถนนสบตุ๋ย ถนนบุญวาทย์ มีประกาศนียบัตรรับรองความอร่อยแทบทุกร้าน แต่ที่นิยมเห็นจะเป็น “ก๋วยจั๊บป้อ” หน้าสถานีรถไฟลำปาง ช่วงเทศกาลลูกค้าหนาแน่น พลอยทำให้มีพ่อค้าแม่ขายอาหารหลากหลายขึ้นอีก ทั้งขนมครก ปาท่องโก๋ ขนมปังปิ้ง น้ำเต้าหู้ เต้าทึง เต้าฮวย เลือกกินกันตามใจชอบเลย แต่อยากกระซิบว่า หากอยากเลี่ยงผู้คนคับคั่ง เลยไปอีกนิดหน้าตลาดโชคชัย ตรงข้ามไปรษณีย์สบตุ๋ย ก๋วยจั๊บเจ้าเก่ารสชาติ บรรยากาศยังเดิมๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก พออิ่มท้อง…ก็เตรียมเดินทางท่องเที่ยวกันเลยดีกว่า…หนึ่งใน Unseen Thailand แห่งลำปาง วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนที่น่าไปมาก เปรียบได้กับสวรรค์บนดินเลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ที่ อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 50 กว่ากิโล วัดนี้ เดิมเรียกว่า “วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็น Unseen คือ ภาพอันงดงามของเจดีย์เล็กๆ สีขาวสร้างขึ้นบนภูเขาสูงเสียดฟ้า ล้อมรอบไปด้วยทิวเขาสูง ซึ่งสร้างจากแรงศรัทธาของมนุษย์เป็นภาพที่ดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเดินทางไป
วัดเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งอยู่บนภูเขาใหญ่ใน อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง อยู่ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท บนยอดเขาแห่งนี้มีรอยพระพุทธบาท ประดิษฐานอยู่ เป็นที่เคารพบูชาของชาว อ.แจ้ห่ม มาอย่างยาวนาน แต่เมื่อก่อนนี้ยังไม่มีการทำถนนขึ้นสู่ดอย ดังนั้นพุทธศาสนิกชน ผู้ศรัทธาจึงต้องเดินเท้าผ่านป่าทึบ และหน้าผาสูงขึ้นไปสักการบูชา รอยพระพุทธบาทแห่งนี้ ต่อมา “หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล” (พระเทพวิสุทธิญาณ) เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ได้เดินทาง มาสักการะรอยพระพุทธบาทโดยการเดินเท้า พลังศรัทธาของท่านเป็นที่มาของ การสร้างวัดขึ้น ประกอบกับในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) พระราชสมภพครบ 200 ปี เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2547 ทางคณะสงฆ์จึงมีมติให้สร้างวัดเฉลิมพระเกียรติ แด่พระองค์ท่านเพื่อน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อ ปวงชนชาวไทย จึงได้สร้าง “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้า ราชานุสรณ์” ที่ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปางขึ้น ยอดเขาวัดเฉลิมพระเกียรติฯสวยงามแบบอลังการในมุมสูง หรือ Bird Eye View นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพมักจะเก็บภาพความสวยงามของวัดจากมุมสูง รวมทั้งความสวยงามระหว่างยอดเขา ซึ่งมีเจดีย์เล็กๆ ประดิษฐานอยู่มากกว่า 10 องค์ บนจุดสูงสุดของวัดเฉลิมพระเกียรติฯ คือจุดชมวิวที่สวยที่สุด สามารถเก็บภาพความงามได้ 360 องศา มองลงเบื้องล่างเห็นตัวอำเภอแจ้ห่มและแม่น้ำสายเล็กขนานไปกับท้องนาสีเขียว รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น ถ้ำผาสวรรค์ ปล่องลมมัศจรรย์ และเมืองโบราณที่ชื่อว่า “เมืองวิเชตนคร” อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน
การเดินทางขึ้นไปวัดมีเส้นทางเดียวเท่านั้น คือ การเดินเท้าจากบริเวณจุดพักรถดอยผาหมอก (ชั้นสองของวัด) ขึ้นไปถึงยอด ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะเส้นทางที่ทั้งทางเดินธรรมดาลัดเลาะตามป่า สลับกับบันไดเหล็กที่มีความแข็งแรงพาดไปตามโขดหินที่มีความชัน เหนื่อยหน่อยแต่คุ้มค่ามากๆ เพราะระหว่างทางจะได้เห็นความสวยงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศที่ปลอดโปร่ง และทิวทัศน์เบื้องล่างแสนงดงาม จนไปถึงชั้นสามซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์น้อยใหญ่…พลาดไม่ได้แล้ว!!! กาดกองต้า ถนนคนเดิน…แบบไม่หมุนตามกาลเวลา “กาดกองต้า” หรือตลาดจีน ที่ชาวบ้านเรียกติดปาก เป็นย่านตลาดเก่าตั้งอยู่ขนานกับลำน้ำวัง ในซอยตลาดจีนริมน้ำ มีอาคารโบราณอายุเหยียบร้อยปี บนถนนตลาดเก่าตลอดทั้งสาย ชุมชนกาดกองต้าถือเป็นถนนสายเศรษฐกิจ ที่มีความเป็นมาที่เก่าแก่ และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ “กาดกองต้า” หมายถึงตลาดตรอกท่าน้ำ อดีตเคยเป็นตลาดที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากเมืองลำปางเคยเป็นศูนย์กลางการค้าของภาคเหนือ ย่านการค้าส่วนมากมักเกิดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำสายใหญ่อย่างแม่น้ำวัง ทำให้เกิดชุมชนที่เข้ามาทำธุรกิจ เช่น อังกฤษ พม่า และจีน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้ามาทำการค้ามากที่สุด จนกลายเป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ ชาวบ้านจึงเรียก “กาดกองต้า” ว่า “ตลาดจีน”
กระทั่งด้วยสำนึกรักบ้านเกิดของคนภายในชุมชนกาดกองต้า ได้ตกแต่งบูรณะฟื้นฟูอาคารเก่าให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่สวยงามมีเอกลักษณ์ จะเลือกเดินชม ปั่นจักรยาน หรือเที่ยวแบบเท่ห์ๆ กับรถม้าลำปาง ล้วนทำได้สบายๆ การชมกาดกองต้าให้ครบทุกรสชาติ ควรจะมาในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ เนื่องจากมีการปลุกฟื้นถนนสายตลาดจีนแห่งนี้ให้เป็นถนนคนเดิน ตั้งแต่เวลา 17.00 น.-22.00 น. ยิ่งทำให้ผู้มาเดินเที่ยวชม และพ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้ามาวางขายต่างหวนระลึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ในอดีตเมื่อร้อยกว่าปีที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี บรรยากาศตลาดเก่า เสน่ห์ที่ดึงดูดใจให้มาชมสถาปัตยกรรมเก่าๆ ที่ผสมผสานหลายเชื้อชาติ เพราะอดีตย่านนี้มีผู้คนหลายเชื้อชาติเข้ามาพักอาศัยเป็นมรดกล้ำค่า เป็นแม่เหล็กดึงดูด นักท่องเที่ยว ผู้โหยหาอดีตอันคลาสสิก
หากจะเดินเที่ยวให้สนุก ควรเริ่มจากไปถ่ายรูปวิวสวยๆ ที่สะพานรัษฏา ถ่ายตอนพระอาทิตย์ตกสวยดี เดินเข้ามามีร้านอาหาร ร้านขายโปสเตอร์ พิพิธภัณฑ์ ของที่ระลึก และที่พัก บรรยากาศเก่า…เรียกว่าถ้ามาลำปางแล้ว…พลาดไม่ได้เลย!!! ชมทุ่งบัวตอง ลองเล่นสไลเดอร์แบบฉบับไม่หมุนตามกาลเวลา ที่เหมืองลิกไนต์แม่เมาะ เหมืองแม่เมาะ หรือเหมืองลิกไนต์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และน่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับจุดท่องเที่ยวที่สำคัญๆ มากมาย ทั้งพิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา ที่ให้ความรู้ทางธรณีวิทยาบริเวณเหมืองแม่เมาะ รวมทั้งประวัติความเป็นมา และเทคโนโลยีในการผลิตไฟฟ้า โดยนำเสนอผ่านภาพยนตร์ 3 มิติ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เปิดบริการวันอังคาร-วันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ ออกจากพิพิธภัณฑ์ เดินต่อมาที่สวนพฤกษชาติ เป็นพื้นที่ที่ได้รับการปรับปรุงจากที่ทิ้งดินให้กลายเป็นสวนสาธารณะประดับด้วยพรรณไม้สวยงาม ภายในสวนยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 ผู้ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สงวนแหล่งถ่านหินที่แม่เมาะ
เดินชมสวนพฤกษชาติ อาจได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานบริเวณหน้าอาคารจุดชมวิวของสวนพฤกษชาติ นั่นคือ ลานสไลเดอร์ เป็นลานพื้นหญ้าที่เทลาดลงสู่บริเวณสนามกอล์ฟ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักท่องไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวสามารถนำกล่องหรือแผ่นรองสไลด์ลงตามลานพื้นหญ้า ทั้งนี้สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนไว้แลกยืมแผ่นรองลื่นได้บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ อีกจุดที่เป็นทางเลือก หากพูดถึงดอกไม้สีเหลืองสดใสในช่วงฤดูหนาว ก็คงหนีไม่พ้นดอกบัวตองที่จะบานรับลมหนาวในช่วงเดือนพ.ย. โดยเฉพาะที่ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน และดอยหัวแม่คำ อ.แม่สลอง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ชมดอกบัวตองที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย
แต่รู้หรือไม่ว่า ที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปางนั้น กลับมีความงดงามของดอกบัวตองซ่อนอยู่เป็นบริเวณกว้าง พร้อมให้พวกเราเข้าไปสัมผัสได้ในตลอดช่วงฤดูหนาวนี้ จุดชมวิว และทุ่งบัวตอง เป็นภูเขาเทียมที่เกิดจากการนำดินในบ่อเหมืองมากองเก็บไว้ โดยบนยอดดอยมีสวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม อีกทั้งจุดชมวิวที่มองเห็นทัศนียภาพอันร่มรื่นและทุ่งบัวตอง ซึ่งบานในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธ.ค. เมืองแห่งถ้วยตราไก่ พลาดไม่ได้ต้องไปชมแหล่งผลิต พิพิธภัณฑ์ธนบดี ลำปาง มีชามตราไก่เป็นสินค้าสำคัญขึ้นชื่อมานาน เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีดินขาวเหมาะแก่การทำเครื่องเซรามิคที่ดีที่สุดแห่ง หนึ่งในประเทศไทย จึงมีโรงงานผลิตถ้วยชามตราไก่ออกมามากมายหลายเจ้าแต่หนึ่งในผู้คิดค้นต้นตำรับ และผลิตออกมามีมาตราฐานสูงในระดับเป็นสินค้าส่งออกนั้นคือที่ “โรงงานธนบดี” ผู้ผลิตในระดับตำนาน ที่ปัจจุบันนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงประวัติศาสตร์การก่อตั้ง และดำเนินงาน สาธิตขั้นตอนการผลิต และแนะนำสินค้าใหม่ๆ ไปในตัว นับว่าเป็นระบบการให้ความรู้ ความเพลิดเพลิน ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน และสินค้าอย่างลงตัวเป็นที่น่าสนใจ ตามประวัติโรงงานชามตราไก่แห่งนี้เกิดขึ้นโดย อาปาอี้ ซมหยู แซ่ฉิน ชาวจีนแคะ จาก มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ซึ่งครอบครัวของท่านที่เมืองจีนก็มีอาชีพทำชามตราไก่มาช้านานแล้ว ได้เข้ามาค้นพบดินขาวที่เหมาะแก่การทำเซารามิกที่ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เมื่อ พ.ศ.2498 ในช่วงแรกนั้นเป็นการปั้นด้วยมือล้วนๆ และเผาในเตาฟืนแบบโบราณที่เรียกว่า “เตามังกร” (ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของกรมศิลปากร) ผลิตถ้วยขนม และถ้วยน้ำจิ้ม ขายดีมากจนแทบทำไม่ทันมาจนทุกวันนี้ ทายาทรุ่นต่อมาได้พัฒนารูปแบบการผลิตให้สวยงามมีศิลปะมากขึ้น ปัจจุบันการตกแต่งบ้าน และร้านค้าแนวย้อนยุค (retro) เป็นที่นิยมสำหรับผู้โหยหาความทรงจำดีๆ ในอดีตเป็นอย่างมาก ชามตราไก่จึงกลับมาเป็นสินค้าในกระแสนิยมอีกครั้ง และกลายเป็นสินค้าสัญลักษณ์ของจังหวัดลำปางไปแล้ว โดยมีชามตราไก่จากหลายแหล่งที่ผลิตออกมา คุณภาพ และราคาก็แตกต่างกันไป การมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีมัคคุเทศก์ที่น่ารัก อัธยาศัยดี นำชม และบรรยายให้ความรู้ด้วยข้อมูลที่แน่นเป๊ะรอบละ 40 นาที แล้วจะรู้ว่าการชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจอย่างที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด!!! เซรามิก ของฝากที่นักช้อปพลาดไม่ได้
อินทราเอาท์เลท (Indra Outlet) ศูนย์จำหน่ายเซรามิกใหญ่ที่สุดของจังหวัดลำปาง ที่มีสินค้าเซรามิคมากมายหลายหลากประเภทสินค้า มีทั้งของอินทราเซรามิค และสินค้าจากโรงงาน อื่นๆ กว่า 30 โรงงาน นอกจากนั้นยังมีสินค้าคละเกรดราคาพิเศษให้นักท่องเที่ยวได้หิ้วกลับแบบเต็มอิ่ม นอกจากนั้นยังสามารถเดินชม และถ่ายรูปประติมากรรมเซรามิกต่างๆเป็นที่ระลึก เช่น เมืองจำลองลำปางเซรามิก 13 แห่ง ชามไก่ยักษ์ ปิรามิดกาน้ำ อนุสาวรีย์ไก่ขาว นายคึกคัก…รถม้าลำปาง ตุงเปิ้งดินเผาเวียง ไม่แวะ ก็เรียกว่าพลาดแล้ว!!! แวะขอพรก่อนเดินทางกลับ ที่วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปาง “วัดพระธาตุลำปางหลวง” อันที่จริงแล้ว จังหวัดลำปางมีวัดที่สวยงามตามแบบฉบับล้านนาอีกมากมาย แต่ละวัดเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม หากแต่วัดคู่บ้านคู่เมืองที่ไม่ควรพลาดสักการะ ก็คงต้องเป็นวัดพระธาตุลำปางหลวง ที่อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง
พระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลู ด้วยเริ่มสร้างในปีฉลู และเสร็จในปีฉลูเช่นกัน ฐานเป็นบัวลูกแก้ว ส่วนองค์เป็นทรงกลมแบบล้านนาภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ ลักษณะเจดีย์แบบนี้ได้ส่งอิทธิพลต่อพระธาตุหริภุญไชย และพระบรมธาตุจอมทอง ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้า และด้านหลัง ที่รั้วทองเหลืองรอบองค์พระ นอกจากนี้วัดพระธาตุลำปางหลวงยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระแก้วดอนเต้า” (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนาสลักด้วยหยกสีเขียว มีงานนมัสการพระแก้วดอนเต้าในวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปี และยังมีพิพิธภัณฑ์ซึ่งรวบรวมศิลปวัตถุจากที่ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น สังเค็ด ธรรมาสน์ คานหาบ ตู้พระไตรปิฎก เป็นต้น และนี่คือ เสี้ยวหนึ่งของเมืองแห่งคำขวัญ “ถ่านหินลือชา รถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล ฝึกช้างใช้ลือโลก” เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา เมืองที่ต้องห้าม…พลาด นักท่องเที่ยวที่หลงไหลการเดินทาง รักความสงบ ชื่นชมธรรมชาติ จะพลาดได้อย่างไร? เก็บกระเป๋าอย่างว่องไว พบกันที่…ลำปาง