“ไร่วิมุตติสุขภูเรือ” แมคคาเดเมียแปรรูปจากไร่คุณภาพ
โอกาสในการสร้างธุรกิจสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอเพียงแค่มีไอเดียความคิดสร้างสรรค์ที่จะต่อยอดสิ่งที่อยู่ตรงนั้นให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด สะพานที่ทอดไปสู่ความสำเร็จก็พร้อมที่จะให้ก้าวเดินต่อไปสู่ปลายทาง
“โสภิตา วิมุตติสุขดี” คือหญิงสาวคนหนึ่งที่ค้นพบธุรกิจของตนเองได้จากความเป็นคนช่างสังเกต และความพยายามที่จะศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่สนใจให้เกิดความเชี่ยวชาญ จนสามารถ Start up ธุรกิจของตนเองขึ้นมาได้ในที่สุดภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า “ไร่วิมุตติสุขภูเรือ”
–มนุษย์เงินเดือนสู่การสร้างธุรกิจ
โสภิตา ในฐานะ กรรมการผู้จัดการ หจก.ไร่วิมุตติสุขภูเรือ บอกว่า ธุรกิจที่เธอทำอยู่ในปัจจุบันคือการแปรรูปแมคคาเดเมียให้ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ โดยมีที่มาที่ไปของไอเดียในการทำธุรกิจดังกล่าวนี้มาจากการที่ตัวเธอมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย ในช่วงที่ตัวเธอยังทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนผู้ที่เรียนจบแล้วหางานทำทั่วไป
ทั้งนี้ ในช่วงที่ตัวเธอท่องเที่ยวอยู่นั้น ตัวเธอได้พบเจอชาวบ้าน หรือเกษตรกรที่ขายแมคคาเดเมีย แต่ในความรู้สึกของตัวเธอมองว่าแมคคาเดเมียดังกล่าวนั้นยังไม่ได้คุณภาพเพียงพอ ตัวเธอจึงสอบถามข้อมูลว่านำแมคคาเดเมียมากจากที่ไหน ทำให้รู้ว่าปลูกเองแต่ยังไม่มีที่จำหน่าย และมีเกษตรกรอยู่จำนวนมากที่เป็นแบบนี้
หลังจากนั้น ตัวเธอจึงได้ทดลองซื้อแมคคาเดเมียจากเกษตรกรมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมกับศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการปลูก และการแปรรูป โดยทดลองทำจากการซื้อผลผลิตจากเกษตรกรมาแปรรูป ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ตัวเธอจึงตัดสินใจลาออกจากการประจำมาทำแบบเต็มตัว โดยการสร้างแบรนด์ “ไร่วิมุตติสุขภูเรือ” ขึ้นมา
-ใส่ใจเรื่องคุณภาพ
โสภิตา บอกต่อไปว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของแบรนด์มีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ โดยที่จุดเด่นของผลิตภัณฑ์อยู่ที่เรื่องคุณภาพของผลผลิตแมคคาเดเมียที่รับซื้อจากเกษตรกร ซึ่งตัวเธอจะทำการเก็บข้อมูลของแต่ละฟาร์มที่ตัวเธอทำสัญญารับซื้อผลผลิตเอาไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวิธีการปลูก การใส่ปุ๋ย วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิต นอกจากนี้ ยังมองไปถึงข้อบกพร่องของแต่ละฟาร์มว่าเป็นอย่างไร เพื่อช่วยกันหาแนวทางแก้ไขปัญหา
“แบรนด์มีการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค และมีมาตรฐานการรับรองต่างๆ จากสำนักงานอาหารและยา (อย.) และมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น โดยผลผลิตแมคคาเดเมียของแบรนด์จะต้องคัดสรรมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะถูกนำมาแปรรูป จากไร่ของเราเอง และผลผลิตจากไร่อื่นที่แบรนด์ตกลงทำสัญญาไว้ โดยเป็นไร่ที่แบรนด์เลือกแล้วว่ามีผลผลิตที่ได้ตามคุณภาพที่ต้องการ”
สำหรับช่องทางในการทำตลาดของแบรนด์นั้น แบรนด์จะดำเนินการจำหน่ายผ่านร้านขายของฝากในจังหวัดเลย และที่ไร่วิมุตติสุขภูเรือ ซึ่งเปิดเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้สำหรับผู้ที่สนใจการปลูกแมคคาเดเมีย และการมาศึกษาดูงานบนพื้นที่ 50 ไร่
อย่างไรก็ตาม แบรนด์ยังมีการจำหน่ายแบบออนไลน์ให้กับลูกค้าทั่วประเทศผ่านทางไลน์ เพจเฟสบุ๊กอีกด้วย เนื่องจากเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มาก จากพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมยุคดิจิทัล และมีต้นทุนที่ไม่สูงมาก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายประกอบด้วย แมคคาเดเมียอบเกลือ,น้ำมันแมคคาเดเมีย ,คุ๊กกี้แมคคาเดเมีย ,แมคคาเดเมียเคลือบชอคโกแลต และสบู่ถ่านจากกะลาแมคคาเดเมีย
-เน้นทำตลาดในประเทศก่อน
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดของแบรนด์ในระยะต่อไปจะยังเน้นการทำตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยจะดำเนินการเข้าหาลูกค้าโดยตรงผ่านงานแสดงสินค้าที่มองแล้วเห็นว่ามีศักยภาพ และมีตลาดที่เหมาะสมกับแบรนด์ รวมถึงการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปีนี้แบรนด์จะเพิ่มอีก 3 รายเพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ให้กับผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ แบรนด์ยังเตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดเพื่อเติมในรูปแบบของสครัปขัดผิวจากถ่านกะลาแมคคาเดเมีย เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ความต้องการจากตลาดต่างประเทศมีติดต่อเข้ามาต่อเนื่องจากทั้งที่ประเทศจีน เวียดนาม และเบลเยี่ยม
“แบรนด์เลือกที่จะทำตลาดในประเทศก่อน เนื่องจากความต้องการของตลาดยังมีอีกมาก อีกทั้งผลผลิตแมคคาเดเมียของปีที่ผ่านมาเองก็มีปริมาณที่ไม่มาก เพราะผลกระทบจากอากาศร้อน ทำให้ไม่เพียงพอต่อการผลิตเพื่อส่งออก”
-ปูทางสู่ความยั่งยืน
โสภิตา บอกอีกว่า จากกลยุทธ์การทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถทำให้แบรนด์มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1.3-1.5 ล้านบาทในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งแบรนด์มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แบรนด์กำลังดำเนินการขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกิจ โดยเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะขยายตลาดออกต่างประเทศในระยะต่อไป ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีทุนพร้อม และผลผลิตเพียงพอก็จะสามารถรับออเดอร์ที่ติดต่อเข้ามาจากต่างประเทศได้
ส่วนหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น ตนจะมองเรื่องความยั่งยืนในอนาคตเป็นที่ตั้ง โดยจะเห็นได้จากการที่ตนพยายามสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับเกษตรกรผู้ปลูกแมคคาเดเมีย เพื่อให้การปลูกมีคุณภาพ และได้ผลผลิตที่ดี ซึ่งเสมือนเป็นการปูพื้นฐานไว้ให้ เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืนในธุรกิจ
“เมื่อผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ก็จะช่วยทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในครั้งต่อไป อีกทั้งยังจะมีการช่วยประชาสัมพันธ์บอกต่อกันไปแบบปากต่อปาก ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างมากในแง่มุมของการทำตลาด โดยที่ทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นมาจากการใส่ใจในเรื่องของคุณภาพนั่นเอง”.