มณฑลซานซีรับมือมลพิษในฤดูหนาว
มณฑลซานซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ตั้งของอุตสาหกรรมการผลิตถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีคำสั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นดำเนินกิจกรรมทางอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.นี้ เพื่อรับมือกับปัญหาหมอกควันพิษในฤดูหนาว อ้างอิงจากคำสั่งลงวันที่ 2 พ.ย.
โดยทางมณฑลระบุว่า รัฐบาลท้องถิ่นต้องปฏิบัติตามมาตรการลดมลพิษฉุกเฉินอย่างเคร่งครัดและจะมีการจำกัดผลผลิตทางอุตสาหกรรมและการขนส่งตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. หลังจากมีการพยากรณ์อากาศว่า อุณหภูมิจะลดต่ำลง
แต่เดิม มณฑลซานซีมีแผนจะเริ่มลดกิจกรรมอุตสาหกรรมในเมืองใหญ่ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่กลางเดือนพ.ย.เป็นต้นไป โดยในภาคส่วนอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้คือการผลิตถ่านโค้ก อะลูมิเนียม เหล็กและเซรามิกส์
เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการควบคุมคุณภาพอากาศของปี 2560 นี้ จีนประกาศเมื่อเดือนส.ค.ว่า 28 เมืองใหญ่ทางตอนเหนือของประเทศจะต้องลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ หรือค่า PM2.5 ลงให้ได้อย่างน้อย 15% ภายในเดือนต.ค.2560 – มี.ค. 2561
ทั้งนี้ มณฑลซานซีตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงปักกิ่งและอยู่ติดกับมณฑลเหอเป่ย
แม้จะมีเพียง 4 เมืองในมณฑลซานซีที่รวมอยู่ในแผนลดมลพิษของรัฐบาล แต่ทางมณฑลเองก็เผยถึงเป้าหมายที่วางไว้ของทางมณฑลในการรับมือกับหมอกควันพิษในฤดูหนาว โดยสั่งการให้เทศบาล 11 แห่งลดค่า PM2.5 ลงให้ได้ 25% – 50% จากเดือนต.ค. 2560 – มี.ค.2561
โดยมีแผนว่า ไท่หยวน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑล จะต้องลดค่า PM2.5 ลงให้ได้ 45% ขณะที่เมืองหลินเฟิน ซึ่งเป็นเมืองที่ผลิตถ่านหินจำนวนมาก และเป็นเมืองที่มีค่ามลพิษสูง จะต้องพยายามลดค่า PM2.5 ลงให้ได้ถึง 50%
นอกจากนี้ เมืองลู่เหลียง ซึ่งมีเทศบาลเมืองที่มีขนาดใหญ่ระดับประเทศและเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตอะลูมิเนียมจำนวนมาก ก็ถูกกดดันให้ลดการปล่อยมลพิษลงให้ได้มากถึง 40% เช่นกัน
ผู้นำท้องถิ่นในมณฑลซานซีก็ได้รับคำสั่งให้ทำหน้าที่และรับผิดชอบอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดความล้มเหลวและพลาดจากเป้าหมายที่วางไว้ โดยผู้บริหารของพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเมืองต้องพยายามกำกับดูแลการลดค่ามลพิษในอากาศอย่างสุดความสามารถ อ้างอิงจากคณะกรรมการป้องกันสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น.