สรุปข่าวประจำวันที่ 28 กันยายน 2565
หุ้น ตปท.-ไทย : ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาด (27 ก.ย.) ลดลง 125.82 จุด (0.43%)ปิดที่ 29,134.99 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.75 จุด (0.21%)ปิดที่ 3,647.29 จุด หุ้นแนสแดด เพิ่มขึ้น 17.64 จุด(0.16%)ปิดที่ 11,271.75 จุด ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยนปิดตลาด(27 ก.ย.) ที่ระดับ 1,610.58 จุด ลดลง 10.67 (0.66%) มูลค่าการซื้อขาย 75,039.57 ล้านบาท
น้ำมันโลก-ไทย : สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ บวก 1.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
PTT Station ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 0.60 บาท/ลิตร เว้น E85 ลดลง 0.40 บาท/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงเดิม มีผล 28 ก.ย. 2565 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้ ULG = 41.16, GSH95 = 33.75, E20 = 32.64, GSH91 = 33.48, E85 = 31.44, พรีเมี่ยม GSH95 = 39.24, HSD-B7 = 34.94, HSD-B10 = 34.94, HSD-B20 = 34.94, พรีเมี่ยมดีเซล B7 = 43.66 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
บางจาก ลดราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด -60 สต. ยกเว้น E85 -40 สต. สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มดีเซลราคาคงเดิม
BCP Retail Price : GSH95S EVO 33.75 / GSH91S EVO 33.48 / GSH E20S EVO 32.64 / GSH E85S EVO 31.44 / Hi Diesel B20S 34.94 / Hi Diesel S 34.94 / Hi Diesel S B7 34.94 / Hi Premium Diesel S B7 43.66 (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องที่ กทม.) มีผล 05.00 น. วันที่ 28 กันยายน
ทองคำลง 50 บ. : ราคาทองคำเมื่อวันที่ 27 ก.ย. ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 29,300.00 ขายออกบาทละ 29,400.00 ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 28,773.68 ขายออกบาทละ 29,900.00 บาท ราคาทองคำลง 50 บาท เมื่อเทียบกับวันที่ 26 ก.ย.
เงินบาทยังอ่อน : สำหรับค่าเงินบาทเทียบเงินสกุลโลก วานนี้ ( 27 ก.ย.) ยังอ่อนค่า โดยธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารพาณิชย์ โดยให้เงินบาทมีค่า 37.923 บาท บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แบงก์พาณิชย์ กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนถัวเฉลี่ยที่ใช้ซื้อขายกับลูกค้า โดยกำหนดค่าเงินบาทไว้ที่ 38.0752 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ , 41.2958 บาทต่อ 1 ปอนด์, 36.8971 บาทต่อ 1 ยูโร , 26.6237 บาท ต่อ 100 เยน, 4.8751 บาทต่อ 1 ดอลลาร์ฮ่องกง ,กำหนดค่าเงินบาท 26.7096 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ และ 8.3330 ต่อ 1 ริงกิตมาเลเซีย
ยื่นสอบ 4 นักร้องวิจารณ์รัฐบาล :
นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นเรื่องต่อ ร.ต.อ. ปิยะวัฒน์ ปรัญญา รอง สว. (สอบสวน) กก.3 บก.ปอท. เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบ 4 ศิลปินชื่อดัง ได้แก่ ว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์, อ๊อฟ-ปองศักดิ์ รัตนพงษ์, ป๊อบ-ปองกูล สืบซึ้ง และ โอ๊ต-ปราโมทย์ ปาทาน ที่ร่วมแสดงในคอนเสิร์ต ‘สี่แยกปากหวาน ตอน I will survive #สู้ตายเราต้องรอด’ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากทั้ง 4 ศิลปินได้แสดงเพลงพิเศษจำนวน 2 เพลง ซึ่งมีเนื้อหาเชิงเสียดสี ด่าทอ ใส่ร้ายด้วยความเท็จ ต่อรัฐบาลและผู้บริหารประเทศ
“บิ๊กป้อม” ไม่รู้ ไบเดิน ไม่มา :
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แจ้งยืนยันอย่างเป็นทางการกับ สถานทูตไทยในสหรัฐฯ แล้วว่าจะไม่เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเปกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะส่งผลอะไรกับประเทศอื่นด้วนหรือไม่ ว่า “ ยังไม่รู้ ผมยังไม่ทราบและผมก็ไม่ใช่ไบเดน“
เคาะเพิ่ม 2,000 บาท จ่าย อสม. :
คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบกลาง วงเงิน 2,100.61 ล้านบาท สำหรับโครงการค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย สําหรับการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในชุมชน ประกอบด้วย อสม. จำนวน 1,039,729 คน และ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวมทั้งสิ้น 1,050,306 คน ในอัตรา 500 บาท/คน/เดือน ระยะเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน มิถุนายน – กันยายน 2565 รวมเป็น 2,000 บาท/คน
พท.ทวงคนจนหมดประเทศ :
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขาธิการและกรรมการคณะยุทธศาสตร์และการเมือง พรรคเพื่อไทย แถลงว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกาศว่า ภายในวันที่ 30 ก.ย. 2565 คนจนจะหมดประเทศ นี่เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน แต่ดูท่าแล้วคนจนไม่น่าจะหมดไป แต่อาจจะกลายเป็นคนไทยจนหมดประเทศ ใกล้จะครบ 30 ก.ย.แล้ว มันคงไม่ทันแล้วที่คนจนจะหมดประเทศ แต่รัฐบาลจะมีมาตรการดูแลเยียวยาฟื้นฟู ช่วยเหลือประชาชนอย่างไร ในขณะที่ประเทศที่มาศักยภาพ พอจะมีทักษะประสบการณ์ เขายังไม่มั่นใจเลย นับประสาอะไรกับรัฐบาลที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ยังต้องลุ้นกับชะตากรรมว่าจะรอดหรือไม่รอด ไม่น่าจะรับมือไหว
เล็งกู้เพิ่ม 1 ล้านล้าน :
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ เรื่อง แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1,052,785.47 ล้านบาท ได้แก่ (1) การก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล วงเงิน 819,765.19 ล้านบาท (2) การก่อหนี้ใหม่ของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นของรัฐ วงเงิน 233,020.28 ล้านบาท ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2566 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นปีงบประมาณ 2566 คาดว่า จะอยู่ที่ 60.43% ซึ่งยังอยู่ใต้กรอบในการบริหารหนี้สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังที่ 70%