กลุ่ม KTIS รุกผลิตหลอดชานอ้อย เป็นรายแรกในไทย
กลุ่ม KTIS เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อม “หลอดชานอ้อย” ย้ำเป็นผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย เป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่มีคุณภาพสูง ไม่เปื่อยยุ่ยง่าย ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน ย่อยสลายได้ใน 15 วัน ด้วยวิธีฝังกลบตามธรรมชาติ เผยช่วงแรกเริ่มมีกำลังการผลิตวันละ 5 แสนหลอด มั่นใจอัตราการเติบโตสูง ตั้งเป้าขายปีนี้ 30 ล้านหลอด
ณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร เปิดเผยว่า กลุ่ม KTIS ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือหลอดชานอ้อย ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อันสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของกลุ่มบริษัทฯ ที่ว่า “KTIS รักษ์โลก…โลกน่ายล ชุมชนน่าอยู่”
สำหรับหลอดชานอ้อยนี้ อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทย่อยคือ บริษัท เอ็นไวรอนเม็นท์พัลพ์ แอนด์ สตรอว์ จำกัด (EPAS) มีกำลังการผลิตในช่วงเริ่มต้น 500,000 หลอดต่อวัน และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกหากมีปริมาณความต้องการสูง โดยตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 30 ล้านหลอด ทั้งนี้ การที่กลุ่ม KTIS เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลแบบครบวงจร ตั้งแต่ส่งเสริมการปลูกอ้อย หีบอ้อย ผลิตเยื่อชานอ้อย และนำเยื่อชานอ้อยมาผลิตเป็นหลอดชานอ้อย จึงมั่นใจได้ว่า EPAS จะไม่ขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตหลอดชานอ้อยอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นจุดแข็งในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หลอดชานอ้อยให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้หลอดชานอ้อยจำนวนมาก
“หลอดชานอ้อยจะต่างจากหลอดกระดาษทั่วไป ตรงที่ไม่เปื่อยยุ่ยง่ายแม้จะแช่ในน้ำเป็นชั่วโมง ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน จึงปลอดภัย 100% สำหรับการบริโภค และการใช้ชานอ้อยจากกระบวนการหีบอ้อยของกลุ่ม KTIS ทำให้ช่วยลดการตัดไม้มาทำเยื่อกระดาษหรือหลอดกระดาษอีกด้วย หลอดชานอ้อยจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคและต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง” นายณัฎฐปัญญ์กล่าวและเสริมด้วยว่า ในปัจจุบันกระแสรักสิ่งแวดล้อม หรือรักษ์โลกแผ่กว้างออกไปเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากการรณรงค์ลดใช้พลาสติกในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น สิ่งที่จะเข้ามาแทนพลาสติกและโฟมที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติอย่างชานอ้อยจึงมีแนวโน้มการเติบโตสูง จึงเชื่อว่าโครงการผลิตและจำหน่ายหลอดชานอ้อยนี้ จะประสบผลสำเร็จด้วยดี